posttoday

พรหมวิหาร 4 ที่ผู้นำต้องมี (1)

22 เมษายน 2561

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า หมอไม่ใช่คนที่รู้ธรรมะโดยลึกซึ้ง หรือจบเปรียญ 9

โดย นสพ.ชัยวลัญช์ ตุนาค เจ้าของเพจ Dr.Dang Can Do ภาพ รอยเตอร์ส

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า หมอไม่ใช่คนที่รู้ธรรมะโดยลึกซึ้ง หรือจบเปรียญ 9 มาแต่อย่างใดจะเคยบวชบ้างก็ 5 วัน 7 วัน ยังไม่ทันได้รู้อะไรลึกซึ้งเลยแม้แต่น้อย

เพียงแต่พยายามที่จะเชื่อมโยงความเป็นธรรมชาติให้เอามาใช้ได้กับชีวิตประจำวัน ให้เป็นกำลังใจ หรือกระตุ้นความคิด แก่ท่านผู้อ่านบ้างก็ยังดี เพราะระยะเวลาที่ทำงานมากว่า 20 ปี และใช้ชีวิตมามากกว่า 40 ปี ทำให้หมอเห็นอะไรมาบ้างพอสมควร ก็อยากจะมาเล่าให้ฟังในทัศนะของหมอก็เท่านั้นเองครับ

วันนี้อยากจะเล่าให้ฟังถึง ธรรมะของผู้นำบ้างสาเหตุที่อยากพูดถึงธรรมะของผู้นำ ก็เพราะว่าถ้าเราสังเกตดีๆ จะเห็นว่า ผู้นำมีอิทธิพลอย่างมากต่อความเป็นไปขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นหน่วยเล็กๆ อย่างครอบครัว หรือชมรม สมาคม องค์กร ภาครัฐหรือเอกชนใดๆ ก็ตาม จะมีความเป็นอยู่ที่สงบสุข มีความก้าวหน้า มีความสุขในการทำงานหรือไม่นั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากการบริหารของผู้นำในองค์กรนั้นๆ นั่นเอง

ลองคิดดูซิครับ ถ้าหัวหน้าครอบครัวมัวแต่กินเหล้า เมายา ไม่สนใจทำมาหากิน ครอบครัวจะเป็นอย่างไร? หรือหัวหน้าองค์กรใดๆ ก็ตาม วันๆฟังแต่พวกประจบสอพลอ ไม่สนใจพัฒนากิจการไม่สนใจลูกน้องที่มุ่งทำแต่งานจนไม่มีเวลามาประจบตัวเอง เป็นคนหูเบา เชื่อคนง่ายปราศจากสติปัญญาไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ลุ่มหลงในลาภ ยศ สรรเสริญ องค์กรนั้นก็ทำนายได้เลยว่ามีแต่ทรงกับทรุด จะหาความเจริญอันใดไม่ได้เลย ซึ่งในสมัยอดีตกาลก็จะพบเห็นผู้นำที่เป็นแบบที่ว่านี้และคงเห็นตอนจบของชีวิตว่าเป็นอย่างไร

เนื่องจากผู้นำมีอิทธิพลต่อความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองขององค์กรนั้นๆ นั่นเอง ทำให้ธรรมะสำหรับผู้นำเป็นที่สิ่งผู้นำควรมีและนำมาปฏิบัติ “พรหมวิหาร 4” หรือธรรมะสำหรับผู้นำที่ว่า ประกอบไปด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

พรหมวิหาร 4 คือหลักธรรมประจำใจ เพื่อให้เราสามารถดำรงชีวิตได้อย่างประเสริฐเหมือนพรหม เป็นแนวปฏิบัติที่ควรมีของผู้ปกครององค์กร และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม

วันนี้เรามาทำความเข้าใจกับคำว่า เมตตา กันก่อนนะครับ “เมตตาธรรมค้ำจุนโลก” หากจะกล่าวว่าเป็นวลียอดฮิตติดปากที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วก็คงไม่ผิด แต่จะมีสักกี่คนที่นำเอามาใช้ในชีวิตประจำวันบ้าง

แล้วคำว่า เมตตา หมายถึง อะไร?

เมตตา หมายถึง มีความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับความสุข ไม่เบียดเบียนรังแก หรือเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น เป็นมิตรกับคนรอบข้าง และปรารถนาดีที่จะเห็นผู้อื่นมีความสุข ถ้าผู้นำมีเมตตา เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรให้กับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา มีความปรารถนาให้ทุกคนมีความสุข ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่เอาเปรียบคนอื่น ไม่ยกยอแต่พรรคพวกของตัวเองโดยปราศจากความเที่ยงธรรมและเมตตา องค์กรนั้นๆ ก็จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป

ทว่า หากองค์กรใด หรือผู้นำใดๆ ไม่มีความเมตตาเป็นเครื่องชี้นำทางในการบริหารงานแล้วละก็ ลองคิดดูเอาเองแล้วกันครับ ว่าองค์กรนั้นๆ จะอยู่ได้หรือไม่

ผู้นำที่ขาดความเมตตาก็เปรียบเสมือนมะเร็งร้ายในร่างกายของคนเรานั่นแหละครับ มันจะไม่ทำให้ร่างกายหรือองคาพยพตายไปในทันทีทันใดหรอกครับ มันจะค่อยๆ กัดกินจนองค์กรหรือร่างกายนั้นไม่เหลืออะไรแล้ว กว่าจะรู้สึกตัว กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ระยะสุดท้าย นั่นแหละครับ แก้ไขอะไรไม่ทันแล้ว ตายสถานเดียว

อยากเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ อยากเป็นผู้นำที่คนรัก คนชอบ อยากเป็นผู้นำที่สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับชีวิตของตนเองและผู้อื่น อยากเป็นผู้นำที่มีแต่ความสุข ใครๆ ก็สรรเสริญ ต้องเป็นผู้นำที่มี “เมตตา” ครับ

หนึ่งในพรหมวิหาร 4 “ธรรมะของผู้นำ” ไม่ต้องเชื่อหมอนะครับ ไม่ต้องเชื่อครับ 555 อาทิตย์หน้ามาต่อพรหมวิหารธรรมะข้อต่อไปนะครับ วันนี้แค่นี้เพราะพื้นที่มีเท่านี้ครับ