posttoday

ธรรมยาตรา ยังคงงดงามเสมอ

08 เมษายน 2561

ปิดฉากไปด้วยความเรียบร้อยงดงามและเป็นที่เจริญศรัทธาของพุทธศาสนิกชนกับ “โครงการธรรมยาตราตามรอยบาทพระศาสดา พุทธภูมิ อินเดีย-เนปาล”

โดย วรธาร ทัดแก้ว

ปิดฉากไปด้วยความเรียบร้อยงดงามและเป็นที่เจริญศรัทธาของพุทธศาสนิกชนกับ “โครงการธรรมยาตราตามรอยบาทพระศาสดา พุทธภูมิ อินเดีย-เนปาล” รุ่น 5 2560/2561 ในความรับผิดชอบของกองงานพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล ซึ่งได้ขับเคลื่อนตามดำริและนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงปฏิบัติการของ พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล

โครงการสำเร็จด้วยดี เพราะทีมพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล มีความเข้มแข็งและมีประสบการณ์ เริ่มจากหัวหน้าพระธรรมทูตคือ พระธรรมโพธิวงศ์ ซึ่งเป็นเสาหลักให้ลูกทีมได้อุ่นใจ ขณะที่ลูกทีมล้วนแล้วแต่เป็นระดับผู้นำองค์กร เป็นงาน รู้หน้าที่ และมีความรู้ความสามารถทั้งทางธรรมและทางโลก

ธรรมยาตรา ยังคงงดงามเสมอ

เริ่มจาก พระศรีโพธิวิเทศ (สุพจน์ ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล พระครูปริยัติโพธิวิเทศ หรือท่านพระมหา ดร.คมสรณ์ คุตฺตธมฺโม เจ้าอาวาสวัดไทยสาวัตถี ประเทศอินเดีย ซึ่งควบโฆษกพระธรรมทูต อินเดีย-เนปาล อีกตำแหน่ง ความรู้เรื่องอินเดียแน่นปึ้ก

พระครูปลัดโพธิวงศ์วรวัฒน์ (ป้อม) เลขานุการ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย พระครูศรีพัฒนวีราภรณ์ (ปราโมทย์) เจ้าอาวาสวัดพระราชวังกบิลพัสดุ์ ประเทศเนปาล และที่ขาดไม่ได้คือ พระครูนรนาถเจติยาภิรักษ์ (สมพงษ์) วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย ในฐานะหัวหน้าโครงการธรรมยาตราฯ ครั้งนี้

ธรรมยาตรา ยังคงงดงามเสมอ

อีกรูปหนึ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆ คือ พระอาจารย์ประวัติ ปวัตโต วัดนาคปรก ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ท่านรูปนี้มีบทบาทสำคัญ คือ เป็นผู้นำในการเดินธรรมยาตราของโครงการนี้

 ระยะเวลาของโครงการเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2560 และสิ้นสุดวันที่ 29 มี.ค. 2561 รวมระยะเวลา 95 วัน ขณะที่ระยะทางธรรมยาตราในเส้นทางที่กำหนดรวม 2,600 กิโลเมตร มีภิกษุเข้าร่วมธรรมยาตรา (เดินธุดงค์) ทั้งสิ้น 120 รูป

เป็น 120 รูป ที่ผ่านการทดสอบ การพิจารณา และคัดเลือกจาก 300 รูปที่เดินธรรมยาตราที่ประเทศไทยมาก่อนที่ จ.นครราชสีมา เป็นเวลา 20 วัน ซึ่งคุณสมบัติของผู้ผ่านการคัดเลือกนอกจากจะมีศรัทธาและมีความตั้งใจแน่วแน่แล้วจะต้องมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัวที่อาจเป็นอุปสรรคต่อธรรมยาตรา

ธรรมยาตรา ยังคงงดงามเสมอ

วันที่ 26 ธ.ค. 2560 คือวันที่คณะธรรมยาตราเดินทางถึงพุทธคยาและพักที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย จากนั้นได้ปฏิบัติกรรมฐาน สวดมนต์ ทั้งที่วัดไทยพุทธคยาและใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมได้ประกอบพิธีสวดมนต์ข้ามปีในวันที่ 31 ธ.ค. 2560

จากนั้นในวันที่ 2 ม.ค. 2560 คณะธรรมยาตราทั้ง 120 รูป ก็ได้กราบลาพุทธคยาออกธรรมยาตราไปยังสถานที่ต่างๆ ตามเส้นทางที่ได้กำหนดไว้ ทั้งในอินเดียและเนปาล

พระครูนรนาถเจติยาภิรักษ์ หัวหน้าโครงการธรรมยาตราฯ กล่าวว่า ทุกสถานที่สำคัญที่คณะเดินทางไปถึงนอกจากปฏิบัติกรรมฐาน สวดมนต์ เจริญจิตตภาวนาแล้วจะมีการสาธยายพระสูตรที่มีความเกี่ยวข้องกับสถานที่นั้นๆ อย่างเช่น เมื่อไปถึงวัดเชตวันมหาวิหาร เมืองราชคฤห์ ซึ่งเดินทางไปถึงในวันมาฆบูชาพอดี ก็จะมีการสวดโอวาทปาติโมกข์ เหมือนดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสแสดงแก่พระอรหันต์ 1250 รูปในสมัยพุทธกาลที่วัดแห่งนี้

ธรรมยาตรา ยังคงงดงามเสมอ

หัวหน้าโครงการธรรมยาตราฯ กล่าวต่อว่า ตลอดเส้นทางธรรมยาตราที่มีระยะทาง 2,600 กิโลเมตร พระสงฆ์ที่ร่วมเดินหลายรูปต่างมีอาการป่วย เช่น เจ็บคอ ตัวร้อน เป็นไข้หวัด ปวดเข่า ปวดขา ครั่นเนื้อครั่นตัว ท้องเสียบางช่วง แต่ท่านเหล่านี้ต่างตั้งใจและอดทน พากเพียรตั้งจิตถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และผ่านมาได้

“ความสำเร็จของโครงการนอกจากญาติโยมได้ร่วมทำบุญกันอย่างแพร่หลายแล้ว ก็ถือว่าเป็นการประกาศพระพุทธศาสนาอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้คนอินเดียและชาวโลกได้รู้จักพระพุทธศาสนาและเกิดความศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้น ที่สำคัญเรายังจะได้พระสงฆ์มาปฏิบัติศาสนกิจที่ประเทศอินเดียเพิ่มขึ้นด้วย โดยหลังจากนี้จะมีการพิจารณาคัดเลือกเพื่อมาปฏิบัติศาสนกิจที่อินเดียต่อไป”

ทว่า ไฮไลต์ของการเดินธรรมยาตราครั้งนี้ ก็คงต้องยกให้ “เจ้าโส” สุนัขผู้พิทักษ์พระภิกษุที่เดินธรรมยาตราตามรอยบาทพระศาสดามาตั้งแต่รุ่นที่ 3, 4 จนมาถึงรุ่น 5 และครั้งนี้ เจ้าโสได้ชวนเพื่อนอีก 2 ตัวมาร่วมเดินกับคณะธรรมยาตราด้วย...เหลือเกินจริงๆ