posttoday

ส่องพระองค์โปรด ธวัชชัย ไทยเขียว

01 ตุลาคม 2560

ในสัปดาห์นี้มีโอกาสได้นั่งสนทนากับ "รองกุ๊กไก่" ธวัชชัย ไทยเขียว

โดยและภาพ เอกชัย จั่นทอง

ในสัปดาห์นี้มีโอกาสได้นั่งสนทนากับ "รองกุ๊กไก่" ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ่วงตำแหน่งโฆษกกระทรวงตาชั่ง สวมบทกระบอกเสียงนำข้อมูลข่าวสารดีๆ สู่ประชาชน คราวนี้มีโอกาสมาปลดกระดุมเสื้อดูพระเครื่องคู่ใจกันหน่อย ว่าจะเป็นพระเครื่องเกจิดังองค์ไหน...

ต้องยอมรับว่า "ธวัชชัย" ถือว่าเป็นลูกหม้อกระทรวงยุติธรรม คลุกคลีทำงานมานาน แม้ชีวิตไม่หวือหวาเติบโตมาจากวัดสระเกศ แต่มุ่งมั่นมานะตัวเองขวนขวายจนเป็นข้าราชการได้ทำงานรับใช้ประชาชน จวบจนวันนี้ก้าวขึ้นตำแหน่ง "รองปลัดกระทรวงยุติธรรม" ในชีวิตราชการได้ผ่านรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงมาสารพัด สร้างสรรค์ผลงานเพื่อกระทรวงมาตลอด

จากชีวิตที่เคยทำงานในภาคเอกชนนานอยู่พักใหญ่ ทั้งเจ้าหน้าที่กำกับการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถัดมาหัวหน้าโครงการผู้มีรายได้น้อยในเขตเมือง และผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการพัฒนาชุมชนในเขตเมือง สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ ผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้นำเยาวชนอาสาสมัครเพื่อสังคม (กยอ.) จากนั้นเส้นทางชีวิตเปลี่ยนมาสวมชุดข้าราชการในปี 2529 ตำแหน่งเจ้าหน้าที่สำนักคุมประพฤติ 3 จ.ชลบุรี กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ผลงานมากมายก่อนเติบโตตามวิถีเรื่อยมาจนเป็นผู้อำนวยการสำนักงานโครงการพัฒนาและส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการ

ไม่นานสไลด์เก้าอี้ไปนั่งเป็นผู้อำนวยการกองนโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวง ถัดมาขึ้นเป็นรองอธิบดีกรมคุมประพฤติ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จากนั้นเป็นอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ก่อนจะมาดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในปัจจุบัน

ส่องพระองค์โปรด ธวัชชัย ไทยเขียว

ส่วนพระเครื่องคู่ใจผู้เขียนไม่ลืมขอดูแล้วถ่ายรูปนำมาฝากผู้อ่านเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา สำหรับพระที่คล้องแขวนเป็นประจำคือ พระสรรค์ หรือพระพิมพ์สรรค์ เนื้อดินเผา กรุวัดมเหยงคณ์ เป็นพระที่ได้รับมรดกตกทอดต่อจากคุณพ่อ ปัจจุบันอายุ 85 ปี ซึ่งพระองค์นี้คุณพ่อได้รับต่อมาจากรุ่นปู่อีกทอดหนึ่ง ส่วนตัวแขวนพระองค์นี้มานานหลายสิบปีแล้ว

"พ่อเล่าให้ฟังว่า สมัยหนุ่มๆ ไปหาหมอที่ โรงพยาบาลใน จ.ชัยนาท เพื่อฉีดยา ปรากฏว่าฉีดยังไงก็ไม่เข้า เข็มฉีดยางอหมด ต้องถอดพระออกแล้วถึงจะฉีดยาได้ ตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จยังไง แต่คิดว่าพ่อคงไม่โกหกเรา และมีคนเห็นอยู่ในเหตุการณ์เยอะ"

ธวัชชัย มองว่า สิ่งที่ควรกระทำคือต้องทำ กรรมดี พระไม่ช่วยหรอก เพราะถ้าเราทำความดี ความดี เหล่านั้นจะปกป้องเราทั้งหมด พระก็อาจเป็นส่วนหนึ่ง จึงไม่ค่อยเชื่อเรื่องบนบานศาลกล่าว แต่เชื่อตามหลักพระพุทธศาสนา เพราะศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาแห่งการร้องขอ ไม่ใช่การไปอ้อนวอนขอให้ช่วย

สำหรับการคล้องพระเครื่อง เพื่อให้รู้ว่าเป็นพระพุทธศาสนาที่เข้าใจความเป็นจริง และพระที่คล้องเป็นมรดกตกทอดกันมา เมื่อนำมาแขวนจะค่อยเตือนสติ เวลาจะทำสิ่งไม่ดีก็ต้องนึกถึงเสมอว่าจะทำให้คุณพ่อและคุณปู่เดือดร้อนหรือไม่ ขณะเดียวกันยังเป็นส่วนหนึ่งในการเตือนตัวเองว่าอย่าประพฤติชั่ว ให้ทำดี ตรงนี้เป็นส่วนสำคัญในการครองตัวครองตนเสมอ

ส่องพระองค์โปรด ธวัชชัย ไทยเขียว

"คนที่คล้องพระแต่ประพฤติชั่ว คิดว่าคงไม่ดี เนื่องจากพระเป็นสัญลักษณ์แห่งความดี พระเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ต้องรักษาความดี อย่าทำสิ่งไม่ดีเด็ดขาด มันขัดมันไม่ถูกต้อง แบบนั้นอย่าคล้องพระดีกว่า ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าคล้องพระแล้วทำความชั่วพระท่านไม่คุ้มครองแน่นอน ไม่มีคนดีที่ไหนคุ้มครองคนชั่ว อย่างเก่งก็แค่ให้อภัย"

ส่วนตัวยึดแนวทางว่า "คนที่มีมากกว่าต้องช่วยเหลือคนที่มีน้อยกว่า" ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ทุกครั้งที่เห็นคนด้อยโอกาส เราอยากเข้าไปช่วยเหลือ เป็นคนที่ไม่สามารถนิ่งดูดายเห็นคนอื่นลำบากได้ ตัวเองมีความอดทนต่ำมากต่อการเห็นคนถูกรังแกหรือถูกเอาเปรียญ จะอดทนเห็นตรงนี้ไม่ได้ และไม่เก็บไว้ จะแสดงตัวแสดงตนเลยช่วยเหลือ

จากชีวิตทำงานเอกชนก่อนพลิกผันเดินสู่เส้นทางราชการ คิดเสมอว่าเข้ามาทำงานราชการเพื่อรับใช้ประชาชนไม่ใช่เป็นนายประชาชน จึงไม่เกรงใจหรือไม่ต้องระวังตัวระวังตนในการช่วยเหลือประชาชน เพราะมองข้ามตัวเองมาตั้งแต่เริ่มรับราชการ

"ไม่เคยไปร้องขอตำแหน่ง เพราะฉะนั้นการรับราชการมาจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปทดแทนบุญคุณใคร หากผู้ใหญ่ไว้ใจให้ทำงาน เราก็ยินดีทำให้เต็มที่เต็มความสามารถ" เพราะท้ายที่สุดความดีจะปกป้องเราทุกอย่าง