posttoday

ธรรมปฏิบัติ...เพื่อการรู้แจ้งในธรรม ณ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา! (ตอน ๑)

25 กรกฎาคม 2555

ปุจฉา : เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๓ ก.ค. ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๐๐–๑๕.๐๐ น. ณ อาคารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

ปุจฉา : เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๓ ก.ค. ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๐๐–๑๕.๐๐ น. ณ อาคารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา พระอาจารย์อารยะวังโสได้รับนิมนต์ไปแสดงธรรม อบรมจิตตภาวนาแด่เจ้าหน้าที่ข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา...ด้วยบทธรรมที่เรียบง่าย คณะผู้ศรัทธาจึงขออนุญาตถอดเทปจัดพิมพ์บทธรรมบรรยายนี้ และขออนุญาตนำลงเผยแผ่ใน “ธรรมส่องโลก” เพื่อประโยชน์ของผู้ศึกษาธรรมและพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ด้วยเห็นคุณค่าในบทธรรมคำสอนดังกล่าว

คณะศิษย์ศรัทธาฯ

วิสัชนา : ขอเจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในห้วงเวลาตั้งแต่วันที่ ๒๑–๒๔ ก.ค. ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา อาตมามีภาระมากพอสมควร ด้วยการเตรียมพร้อมต่อการนำสวดพระปริตร อธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย ครั้งที่ ๓๘ เมื่อวันที่ ๒๒ ก.ค.ที่ผ่านมา ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ในวันที่ ๒๘ ก.ค. ๒๕๕๕ นี้

ด้วยพระกรุณาที่ทรงมีพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดงานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ได้ จึงนำมาสู่การจัดงานประกอบศาสนกิจอย่างยิ่งใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ ๒๒ ก.ค. ๒๕๕๕ ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ดังกล่าว มีประชาชนมาร่วมงานกันมากกว่า ๓,๐๐๐ คน เพื่อร่วมใจกันประกอบการกุศล โดยในงานดังกล่าวมีองค์พระสังฆมหานายก มหาเถระ หรือพระสังฆราชา พุทธศาสนาเถรวาท สยามอุบาลีวงศ์ ประเทศศรีลังกา มาเป็นองค์ประธาน พร้อมตัวแทนพระสงฆ์จีนจากวัดเส้าหลิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ตัวแทนจากชาวพุทธในอินเดียที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐมหาราษฏระ

โดยตัวแทนพุทธศาสนิกชนชาวไทยเราในวันนั้น คงจะได้แก่ พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ นายพิทูร พุ่มหิรัญ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นแม่งานที่สำคัญ ทั้งนี้ โดยการสนับสนุนของรัฐบาลไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) ที่ได้อำนวยการสนับสนุนในทุกๆ ด้าน ได้แก่ การถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ ของกรมประชาสัมพันธ์ และการมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ช่วยดูแลต้อนรับผู้นำศาสนาจากต่างประเทศ ได้แก่ พระสังฆมหานายก มหาเถระ แห่งสยามอุบาลีวงศ์ พุทธศาสนาเถรวาท ศรีลังกา

สืบเนื่องจากวันดังกล่าว แม้งาน “สวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย” จะจบด้วยความสมบูรณ์ ประสบความสำเร็จยิ่ง ด้วยคุณค่าความสุขทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวไทย เป็นดัชนีชี้วัด... แต่งานของอาตมายังไม่จบสิ้นภารกิจ โดยในวันต่อมา (๒๓ ก.ค. ๒๕๕๕) อาตมาต้องไปประกอบศาสนกิจที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในยามเช้า ต่อเนื่องด้วยการไปบรรยายธรรม นำอบรมจิตตภาวนาในยามบ่าย นำคณะชาวพุทธในอินเดียไปร่วมรับฟังการบรรยายจากศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ในยามเย็น และย่ำค่ำด้วยการให้ธรรมะกับคณะศรัทธาเป็นส่วนตัว จนทำให้ไม่มีโอกาสเขียนต้นฉบับธรรมส่องโลก/โพสต์ทูเดย์ จึงขออภัยมาถึงสาธุชนทุกท่านด้วย

มีสาระสำคัญอันหนึ่งจาก ดร.บวรศักดิ์ฯ ในวันที่ ๒๓ ก.ค. ณ สถาบันพระปกเกล้า ที่ถวายความเห็นเพื่อขอให้อาตมาได้สอนวิปัสสนาญาณ แก่คณะศรัทธาญาติโยม นักปฏิบัติธรรมที่มีความพร้อม ซึ่งอาตมาก็มิได้ปฏิเสธ จึงเห็นควรที่จะนำเสนอธรรมบรรยายจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เมื่อวันที่ ๒๓ ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเป็นพื้นฐานในการนำไปสู่การเรียนรู้วิปัสสนาญาณในพระพุทธศาสนา โดยมีปุจฉาเกิดขึ้นให้เห็นควรนำเสนอบทบรรยายธรรมปฏิบัติดังกล่าว จึงขอสาธุชนผู้สนใจในการอบรมจิตตภาวนาได้ศึกษาเพื่อประกอบการเรียนรู้และปฏิบัติในบัดนี้...

“... ต่อไป ทุกคนพนมมือในระหว่างอก พนมมือแล้วก็สำรวมให้มือสองข้างมาเป็นหนึ่งเดียว แล้วก็รวมจิตไว้ให้มั่นคงดุจมือสองข้างที่พนม รู้กายกระทำชอบ รู้สิ่งที่เรากระทำ คือ เรานั่งในอิริยาบถการถวายความเคารพในพระพุทธศาสนา เราตั้งเจตนารู้การกระทำชอบและกำหนดรู้ชอบ ให้รู้อยู่ที่กลางฝ่ามือที่อยู่ในสองมือนั้น แล้วก็ตั้งจิตดำริลงไปว่า

“นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ”

เราก็ดำริลงในกลางจิตของเราว่า “ขอถวายความนอบน้อม ขอถวายความคารวะ ขอถวายการสักการบูชาแด่พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า... อรหัง... เป็นผู้ไกลจากกิเลส... สัมมาสัมพุทโธ... ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เองพระองค์นั้น” ให้ตั้งมั่นอยู่ในความสงบนั้น คือ ต้องรวมจิตไว้ให้นิ่งอยู่กับการรู้การกระทำอันชอบนี้ ตั้งจิตลงในกลางกาย...

อ่านต่อฉบับพรุ่งนี้