posttoday

รัฐบาลล่าทุนสีเทาหมื่นล้าน เขย่าตลาดหุ้นสะเทือนทั้งระบบ

04 ธันวาคม 2568

ปฏิบัติการยึด–อายัดทรัพย์เครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ เผยเส้นทางเงินสกปรกไหลผ่านตลาดหุ้นไทยหลายชั้น พรรคการเมือง–อดีตผู้มีอำนาจถูกจับตา โยงขบวนการฟอกเงินซับซ้อน

KEY

POINTS

  • เส้นทางเงินสีเทาไหลเข้าตลาดหุ้นผ่านดีลซื้อหุ้นบางจาก–BCPG
  • พบบริษัททุนจดทะเบียนหลักร้อยซื้อกิจการระดับพันล้าน
  • เรียกร้องรัฐเปิดข้อมูลทรัพย์อายัด และผลักดันหมายแดงล่าตัวการใหญ่

คดีหมื่นล้านสั่นคลอนความเชื่อมั่นตลาดการเงินไทย

ภาพรวมปฏิบัติการยึดและอายัดทรัพย์เกือบหมื่นล้านบาทจากเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ไม่ใช่เพียงข่าวอาชญากรรมธรรมดา แต่เป็นสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ของระบบตลาดเงินไทยที่กำลังกลายเป็นสนามล้างเงินโลก รัฐบาลแถลงชัดเจนว่าเครือข่ายดังกล่าวมี 42 รายชื่อ ถูกจับแล้ว 29 ราย และยังหลบหนีอีก 13 ราย รวมถึงตัวการสำคัญซึ่งมีเครือข่ายโยงใยหลายชั้นในธุรกรรมการลงทุนไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยระบุว่าเส้นทางเงินของเครือข่ายนี้ไม่ได้หยุดอยู่ที่การหลอกเหยื่อออนไลน์ แต่ถูกเปลี่ยนสถานะผ่านการซื้อกิจการ การถือหุ้น และการเคลื่อนเงินระหว่างบริษัทข้ามประเทศ ก่อนจะไหลเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ไทยอย่างเป็นระบบ

ทั้งหมดสะท้อนความซับซ้อนที่เกินกำลังการตรวจสอบของหน่วยงานกำกับยุคเดิม หากไม่มีเครื่องมือร่วมกันระหว่าง ปปง.–กลต.–ตำรวจสากล ก็ยากจะหยุดยั้งโครงข่ายระดับภูมิภาคเช่นนี้ได้

เมื่อรัฐบาลประกาศว่ายึดทรัพย์ได้หมื่นล้านบาท สิ่งที่สังคมตั้งคำถามไม่ใช่เพียงตัวเลข แต่คือความหมายที่ซ่อนอยู่หลังความสำเร็จนี้ การดำเนินการครั้งนี้จะเป็นหมุดหมายของการปฏิรูประบบกำกับตลาดทุน หรือเป็นเพียงจังหวะหนึ่งของเกมการเมืองที่กำลังจับตาอำนาจในเครือข่ายเศรษฐกิจสีเทาที่ฝังรากมานาน

รัฐบาลล่าทุนสีเทาหมื่นล้าน เขย่าตลาดหุ้นสะเทือนทั้งระบบ

เส้นทางเงินสกปรกข้ามพรมแดนผ่านหุ้นพลังงานไทย

ธุรกรรมที่ถูกตั้งข้อสงสัยมากที่สุดคือดีลซื้อหุ้นของ บางจาก (BCP) และบริษัทลูก BCPG ซึ่งปรากฏชื่อของยิม เลียก, BIC Cambodia และนอมินีอีกหลายรายที่ถือหุ้นสอดรับกันในช่วงปี 2563–2565

นายพงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ว่า รายชื่อทั้งหมดไปตรงกับบัญชีผู้ต้องสงสัยในร่างกฎหมายสแกมเมอร์ของสหรัฐฯ ทำให้การซื้อขายหุ้นชุดนี้ถูกตั้งคำถามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าเป็น “ทางลัดฟอกเงิน” ที่อาศัยความชอบธรรมของตลาดทุนไทยเป็นฉากบังหน้า

ความผิดปกติยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อพบว่า Alpha Charter Energy (ACE) บริษัทที่เพิ่งจดทะเบียนต้นปีด้วยทุนเพียง 50 ล้านบาท สามารถเข้าซื้อหุ้นบางจากมูลค่า 10,000 ล้านบาท ได้ภายในสามสัปดาห์ ดีลที่ใหญ่เกินศักยภาพของบริษัทหน้าใหม่ ยิ่งทำให้ตลาดตั้งคำถาม ว่าเงินทุนมหาศาลนี้มาจากที่ใด และใครเป็นผู้เปิดประตูให้เงินก้อนนี้ไหลเข้าระบบโดยไร้รอยต่อทางกฎหมาย

ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบกรณีบริษัทหนึ่งที่มีทุนเพียง 330 ล้านบาท แต่กลับกู้เงินจากเครือข่ายที่โยงกับ BIC Cambodia กว่า 2,200 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อกิจการสถาบันการเงิน ทั้งหมดสะท้อนภาพยุทธวิธีฟอกเงินรูปแบบใหม่ที่ใช้ “การเทรด–การซื้อกิจการ–การเพิ่มทุน” เป็นเครื่องซักผ้าชั้นสูง โดยอาศัยช่องว่างความกำกับดูแลในตลาดหุ้นไทยที่ยังตรวจสอบต้นทางเงินไม่ได้ครบวงจร

รัฐบาลล่าทุนสีเทาหมื่นล้าน เขย่าตลาดหุ้นสะเทือนทั้งระบบ

แรงกดดันตรวจสอบผู้มีอำนาจ เปิดเส้นเลือดใหญ่ทุนสีเทา

 ปฏิบัติการยึดทรัพย์ครั้งนี้ยังโยงกลับไปสู่คำถามสำคัญว่า “ใครในอำนาจเอื้อให้ดีลเหล่านี้เกิดขึ้น” นายพงศกรอ้างถึงการเพิ่มทุนของบางจากเมื่อปี 2563 ที่ขายให้สองบริษัทเอกชนโดยมีอดีตรัฐมนตรีในฐานะประธานบอร์ดเป็นผู้อนุมัติ

ขณะที่ พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคประชาชน และอดีตผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุชัดว่า การซื้อขายหุ้นล็อตใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่มีการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจในบางตำแหน่ง สังคมจึงต้องการคำตอบว่าโครงสร้างอำนาจใดเปิดทางให้เงินผิดกฎหมายไหลเข้ามาปะปนในระบบเศรษฐกิจไทย

ข้อเรียกร้องสำคัญคือให้ กลต. ตรวจสอบเส้นทางเงินของ ACE และดีลต้องสงสัยทั้งหมด โดยไม่สามารถอ้างว่าไม่มีอำนาจเริ่มต้นตรวจสอบได้อีกต่อไป เพราะ ปปง. ได้อายัดหลักทรัพย์ส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งทำให้ตลาดทุนหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลถูกเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลทรัพย์สินที่ยึดได้จริง และชี้ให้เห็นอย่างโปร่งใสว่าเงินก้อนนั้นถูกเก็บรักษาไว้ที่ใด เพื่อให้มั่นใจว่าจะถูกส่งกลับไปชดเชยเหยื่อสแกมเมอร์จำนวนมหาศาล ไม่ใช่สูญหายระหว่างกระบวนการ

ท้ายที่สุด การออก หมายแดง (Red Notice) เพื่อล่าตัว ยิม เลียก และผู้หลบหนีรายอื่น กลายเป็นบททดสอบเจตจำนงทางการเมืองของรัฐบาลนายกฯอนุทิน หากทำได้จริง นี่คือสัญญาณชัดเจนว่าไทยจะไม่ยอมเป็น “โรงงานฟอกเงินโลก” อีกต่อไป แต่หากทำไม่ได้ คำถามเรื่องโครงข่ายอำนาจที่เอื้อประโยชน์ให้ทุนสีเทา ก็จะยิ่งหนักหน่วงและกดดันสถาบันรัฐทุกระดับให้ต้องตอบคำถามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา: รายการคมชัดลึก (คลิ๊กชม)
เรียบเรียง : อมรเดช ชูสุวรรณ บรรณาธิการข่าวการเมือง 

ข่าวล่าสุด

ปิดฉากจักรวาล "แอน จักรพงษ์" JKN เทรดชั่วคราวก่อนออกจากตลาด เริ่ม 18 ธ.ค.นี้