เพื่อไทยเปิดเกมฝ่ายค้านอิสระงัดทุกกลไกสภาตรวจสอบรัฐบาลอนุทิน
เพื่อไทยประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ ไม่ร่วมวิปกับพรรคประชาชน นพ.ชลน่านย้ำตรวจสอบสร้างสรรค์ ซักฟอกรัฐบาลอนุทินทันที ชี้ชินวัตรยังไม่ทิ้งพรรค
KEY
POINTS
- พรรคเพื่อไทยประกาศเป็น "ฝ่ายค้านอิสระ" และไม่เข้าร่วมวิปฝ่ายค้าน เพื่อรักษาความเป็นอิสระและไม่ต้องการถูกผูกมัดด้วยข้อตกลงที่อาจจำกัดสิทธิการทำงานของ สส.
- จะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลผ่านกลไกสภา โดยมีจำนวน สส. เพียงพอ (มากกว่า 140 คน) ที่จะสามารถยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้โดยลำพัง
- การทำหน้าที่ฝ่ายค้านไม่ได้มุ่งเป้าเพื่อการล้างแค้นทางการเมือง แต่เป็นการตรวจสอบด้วยข้อเท็จจริงเพื่อเปิดโปงและสั่นคลอนความน่าเชื่อถือของรัฐบาล
เหตุผลเพื่อไทยไม่เข้าร่วมวิปฝ่ายค้าน
หลังการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยของพรรคภูมิใจไทยที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ประกาศชัดว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่ด้วยสถานะที่แตกต่างออกไป คือเป็น “ฝ่ายค้านอิสระ” โดยไม่เข้าร่วมในคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ “วิปฝ่ายค้าน” ที่นำโดยพรรคประชาชน
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและอดีตผู้นำฝ่ายค้าน อธิบายเหตุผลว่า การเข้าร่วมวิปฝ่ายค้านจะเท่ากับการผูกมัดตัวเองกับ ข้อตกลง MOA (Memorandum of Agreement) ซึ่งมีรายละเอียดบางข้อที่พรรคเพื่อไทยไม่อาจยอมรับได้ โดยเฉพาะข้อกำหนดที่อาจตีความเป็นการจำกัดสิทธิการทำงานของ สส. ในการอภิปราย การโหวต หรือแม้กระทั่งการยื่นญัตติ
“ถ้าเราเข้าไปอยู่ในวิป ก็เท่ากับต้องยอมรับเงื่อนไข MOA และทำตามมติส่วนใหญ่ทุกครั้ง แม้บางเรื่องเราไม่เห็นด้วย ก็ต้องปฏิบัติตามเสียงข้างมาก ซึ่งเราไม่อยากถูกครอบงำ” นพ.ชลน่านกล่าว
ตัวอย่างที่ถูกหยิบยก เช่น หากวิปฝ่ายค้านมีมติไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเพื่อไทยก็จะถูกผูกมัดทั้งที่อาจมีข้อมูลพร้อมแล้ว หรือกรณีการเป็นองค์ประชุมเพื่อช่วยให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยอยู่รอดก็อาจเป็นข้อผูกมัดที่สร้างแรงกดดันต่อพรรค
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังตั้งข้อสังเกตว่า MOA 5 ข้อที่ถูกเผยแพร่โดยพรรคฝ่ายค้านนำ มีความแตกต่างจาก MOA 3 ข้อที่พรรคเพื่อไทยเคยหารือเบื้องต้น และมีข้อความที่สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดอิสระในการตัดสินใจของพรรคและสมาชิกสภาฯ
ดังนั้น เพื่อไทยจึงเลือกที่จะรักษาความเป็น ฝ่ายค้านอิสระ ทำงานตามอุดมการณ์และแนวทางของตนเอง พร้อมทั้งยังเปิดประตูความร่วมมือกับฝ่ายค้านพรรคอื่น ๆ ในแต่ละประเด็นที่เห็นตรงกัน เช่น การแก้รัฐธรรมนูญหรือการยื่นญัตติสำคัญ แต่ไม่ผ่านกลไกวิปฝ่ายค้าน
ฝ่ายค้านอิสระ ซักฟอกรัฐบาลตามกลไลรัฐธรรมนูญ
แม้ไม่ร่วมวิปฝ่ายค้าน แต่พรรคเพื่อไทยยังถือไพ่สำคัญในมือ คือจำนวน ส.ส. มากกว่า 140 คน เกินกว่า 1 ใน 5 ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้สามารถ ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลได้โดยลำพัง
นพ.ชลน่าน ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอนุทินได้ทันที หากพบหลักฐานว่ามีรัฐมนตรีที่ ขาดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้าม หรือหากนโยบายที่แถลงต่อสภาไม่ตอบโจทย์ประชาชน
การอภิปรายไม่ไว้วางใจในรอบนี้จึงถูกจับตามองอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นเวทีแรกที่ฝ่ายค้านได้ทดสอบเสถียรภาพของรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ขณะเดียวกันก็เป็นบทพิสูจน์บทบาทของเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้านอิสระว่าจะเข้มข้นเพียงใด
อย่างไรก็ดี การล้มรัฐบาลไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากต้องใช้เสียงเกินครึ่งของสภา หรือ 246 เสียง ซึ่งฝ่ายค้านไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยการสมทบจากพรรคเล็กหรือเสียงงูเห่า
การอภิปรายครั้งนี้จึงไม่ใช่เพื่อ “คว่ำรัฐบาล” อย่างเดียว แต่เพื่อเปิดโปง ตรวจสอบ และสั่นคลอนความน่าเชื่อถือของรัฐบาลอนุทินในสายตาประชาชน
“ฝ่ายค้านที่แท้จริงไม่ใช่การเป็นฝ่ายแค้น แต่คือการตรวจสอบด้วยข้อเท็จจริง กลไกตามรัฐธรรมนูญ และเพื่อประโยชน์ของประชาชน” นพ.ชลน่านอธิบาย ตอกย้ำว่า การซักฟอกของเพื่อไทยจะไม่ใช่เพื่อล้างแค้นทางการเมือง แต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามอุดมการณ์และหลักการประชาธิปไตย
อนาคตเพื่อไทยรักษาอุดมการณ์ความเป็นตัวเอง
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพื่อไทยยังคงถูกจับตาในฐานะพรรคใหญ่ที่มีรากฐานทางการเมืองยาวนาน นพ.ชลน่านยืนยันว่า "ตระกูลชินวัตร"ยังไม่ทิ้งพรรคเพื่อไทย และพรรคยังคงต้องคงความเป็นตัวเองไว้
เป้าหมายเพื่อไทยคือการรักษาเอกลักษณ์และอุดมการณ์ดั้งเดิม และสื่อสารเจตนารมณ์ให้ชัดเจนต่อประชาชน โดยเฉพาะฐานเสียงในภาคเหนือและอีสานที่ยังคงเหนียวแน่น แม้เผชิญความท้าทายจากการเมืองยุคใหม่และพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่กำลังเติบโต
นพ.ชลน่าน ประเมินว่า การเมืองไทยในระยะสั้นอาจเข้าสู่ช่วงผันผวนจากรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่มีอายุเพียง 4 เดือน หากพรรคภูมิใจไทยยุบสภาตามเงื่อนไขที่ประกาศไว้ เพื่อไทยจะต้องปรับกลยุทธ์ เตรียมพร้อมรับมือการเลือกตั้งครั้งใหม่ ไม่ว่าจะในบทบาทฝ่ายค้านหรือผู้ท้าชิงกลับเข้าสู่อำนาจรัฐ
"เพื่อไทยยังเป็นเพื่อไทย เราจะต้องสู้ต่อไปในนามของประชาชน” นพ.ชลน่านกล่าวพร้อมยืนยันว่าพรรคจะไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง แม้จะเลือกเส้นทางที่โดดเดี่ยวกว่าพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ
พรรคเพื่อไทยเลือกเส้นทาง ฝ่ายค้านอิสระ เพื่อปกป้องสิทธิของ สส. และคงความเป็นตัวเอง แม้ไม่ร่วมวิปกับพรรคประชาชน แต่ก็พร้อมจับมือฝ่ายค้านอื่นๆเป็นรายประเด็น โดยมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเครื่องมือหลักในการตรวจสอบรัฐบาลอนุทิน
ขณะเดียวกัน พรรคยังคงยืนยันความผูกพันกับตระกูลชินวัตรและฐานเสียงเดิม มุ่งรักษาอุดมการณ์เพื่อสู้ต่อบนเส้นทางการเมืองที่ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน


