posttoday

ไขปม แพทองธาร เซ็นแบ่งงานรองนายกฯ ไร้ชื่อ “พีระพันธุ์”

21 มิถุนายน 2568

จับตารัฐบาลแพทองธาร หลังไร้ชื่อ “พีระพันธุ์” ในคำสั่งมอบหมายงาน 3 รองนายกฯ 20 กระทรวงเสี่ยงกระทบงบปี’69 และ กม.สำคัญ

หลังพรรคภูมิใจไทยประกาศถอนตัวจากรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับใหม่ เลขที่ 184/2568 ปรับโครงสร้างการมอบหมายหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนใหม่ โดยไม่ปรากฏชื่อ “นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยรักษาชาติในกลุ่มผู้ได้รับมอบหมายงานแต่อย่างใด ท่ามกลางกระแสการเมืองที่เปราะบาง

 

การหายไปของชื่อ “พีระพันธุ์” ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับท่าทีการเมืองของเจ้าตัวที่เคยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และเป็นไปได้ว่าข้อเสนอดังกล่าวอาจนำไปสู่ความไม่ลงรอยภายในพรรค จนเกิดกระแสข่าวว่ามีการรวบรวมรายชื่อ ส.ส. 18 คน เพื่อถอดถอนเจ้าตัวจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค

 

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่นิ่ง การเคลื่อนไหวของกลุ่ม ส.ส.ที่สนับสนุนนายพีระพันธุ์อาจนำไปสู่การถอนตัวเพิ่มเติม ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล “แพทองธาร 2” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ยังอยู่ระหว่างวาระ 2-3 และกฎหมายสำคัญหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม และนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ยังต้องอาศัยเสียงสนับสนุนในสภา

 

ขณะเดียวกัน งบกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 157,000 ล้านบาท ก็ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ ซึ่งอาจสะดุดเช่นกันหากเสียงในสภาไม่มั่นคงพอ

 

รายละเอียดคำสั่งใหม่ของนายกรัฐมนตรี

 

คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 184/2568 มีสาระสำคัญคือ การปรับเปลี่ยนการมอบหมายหน้าที่ให้รองนายกรัฐมนตรี 3 คน ได้แก่

 

  • นายภูมิธรรม เวชยชัย

กำกับดูแลงานของ

  1. กระทรวงกลาโหม
  2. กระทรวงมหาดไทย
  3. กระทรวงยุติธรรม
  4. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
  5. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
  6. สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

 

  • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

กำกับดูแลงานของ

  1. กระทรวงการต่างประเทศ
  2. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
  3. กระทรวงคมนาคม
  4. กระทรวงแรงงาน
  5. กระทรวงวัฒนธรรม
  6. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

 

  • นายประเสริฐ จันทรรวงทอง

กำกับดูแลงานของ

  1. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
  2. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
  3. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  4. กระทรวงศึกษาธิการ
  5. กระทรวงสาธารณสุข
  6. กรมประชาสัมพันธ์
  7. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
  8. สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และความสามัคคีปรองดอง

 

รวมถึงองค์การมหาชนที่รับผิดชอบเพิ่มเติมอีก 8 แห่ง เช่น สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ


การไม่มีชื่อ “พีระพันธุ์” ในคำสั่งครั้งนี้จึงอาจไม่ใช่แค่การปรับงานตามปกติ แต่สะท้อนการจัดทัพใหม่ทางการเมืองของนายกฯ แพทองธาร ท่ามกลางเส้นบางของความไว้ใจ และแรงกดดันจากพันธมิตรในรัฐบาลที่เริ่มคลายตัวอย่างชัดเจนในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ


 

ข่าวล่าสุด

"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ยังระบาดหนัก!