posttoday

แบนขยะอิเล็กทรอนิกส์

20 มิถุนายน 2561

กลายเป็นเรื่องตกตะลึงของคนทั้งประเทศ เมื่อเห็นภาพกองขยะอิเล็กทรอนิกส์สูงอย่างกับภูเขาเลากา

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

กลายเป็นเรื่องตกตะลึงของคนทั้งประเทศ เมื่อเห็นภาพกองขยะอิเล็กทรอนิกส์สูงอย่างกับภูเขาเลากา

ขยะพวกนี้นำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากนักธุรกิจชาวจีน

ถ้าพูดตรงๆ รัฐบาลประเทศไหนๆ ก็ไม่ส่งเสริมการส่งออกสินค้าที่มีพิษภัยแบบผิดกฎหมายไปประเทศอื่นๆ เนื่องจากผลที่ตามมามากมาย แต่สิ่งที่เกิดมาจากบรรดาพ่อค้าที่เห็นแก่เงินลอยอยู่ข้างหน้า โดยไม่มองถึงผลกระทบด้านอื่น

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเวสต์ (อังกฤษ : e-waste) เป็นของเสียที่ประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เสียหรือไม่มีคนต้องการแล้ว ชิ้นส่วนหลายชิ้นเป็นพิษ ไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้

หลายประเทศออกกฎหมาย โดยให้บริษัทผู้ผลิตที่จะวางตลาดในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ต้องจัดเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปกำจัดก่อนถึงจะวางสินค้าใหม่ได้ ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญที่ถูกนำออกมาใช้เพื่อแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์

ขณะเดียวกัน ด้วยพฤติกรรมการบริโภคที่มีลักษณะใช้แล้วทิ้งที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบไม่เพียงแค่ในขอบข่ายของขยะอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น บรรจุภัณฑ์อื่นๆ ก็ถูกทิ้งลงถังขยะมากมายจนล้นเกิน หลายๆ ประเทศต้องสูญเสียงบประมาณ เพื่อทำการจัดเก็บและทำลายขยะแต่ละปีเป็นมูลค่ามหาศาล

ทั้งหมดทำให้เกิดแรงผลักดันให้มีการส่งออกขยะอิเล็กทรอนิกส์ออกไปกำจัดยังประเทศที่ไม่มีกฎหมายบังคับอย่างรัดกุมและมีค่าแรงต่ำ

มูลค่าของขยะอิเล็กทรอนิกส์ก็คือ การคัดแยกส่วนประกอบต่างๆ ออกมา เช่น ทองแดง เหล็ก ซิลิคอน นิกเกิล และทองคำ ในระหว่างกระบวนการรีไซเคิล ยกตัวอย่างเช่น โทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่องจะประกอบด้วยทองแดง 19% และเหล็กร้อย 8%

แต่ปัญหาก็คือการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีกระบวนการพิเศษ ไม่ใช่เผา หรือฝังแบบปกติ โดยสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือขยะเหล่านี้ เมื่อมาถึงไทยกลับมีกระบวนการคัดแยก กำจัดที่ไม่ถูก

มิหนำซ้ำ บรรดาพ่อค้าในประเทศต้นทางที่ส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ ใช้วิธีการแกะแยกชิ้นส่วนที่นำไปสร้างมูลค่าได้ออกไปก่อน เหลือไว้แต่ชิ้นส่วนขยะที่สร้างมูลค่าต่ำออกมา พร้อมๆ กับมลพิษ

ประเด็นที่ทำให้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์มีความน่ากลัวก็คือ ปริมาณการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มมากขึ้น ไทยกลายเป็นแหล่งที่เปิดนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งจากความโลภ ทั้งจากความละเลยของหน่วยงานภาครัฐ หรือจากปัญหาอัตรากำลังที่ไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบ

ทางที่ดีก็คือรัฐบาลน่าจะประกาศห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยสิ้นเชิง และเปิดให้มีการกำจัดขยะเฉพาะที่เป็นเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในประเทศ เพื่อตัดปัญหาต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ตัวอย่างในหลายประเทศ อาทิ จีน ก็ห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ และกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ขยะเหล่านี้กระจายออกมายังไทย

แม้ว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์จะสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้น แต่เงินที่จะมาพร้อมกับปัญหา มันไม่คุ้มค่า

งัด ม.44 มาใช้เลยดีไหมลุงตู่