posttoday

Super Cycle รอบที่สามของทองคำ สินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์ในโลกหลายขั้วอำนาจ

08 พฤศจิกายน 2568

ราคาทองคำกลับมาทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งในปี 2568 และดูเหมือนว่าการปรับขึ้นรอบนี้จะไม่ได้เป็นเพียงแค่การ “เก็งกำไรชั่วคราว” แต่เป็นการเข้าสู่ Super Cycle รอบที่สามของทองคำ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยปัจจัยเชิงโครงสร้างและภูมิรัฐศาสตร์ที่ลึกกว่าเดิม

KEY

POINTS

  • ราคาทองคำกลับมาทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งในปี 2568
  • และดูเหมือนว่าการปรับขึ้นรอบนี้จะไม่ได้เป็นเพียงแค่การ “เก็งกำไรชั่วคราว”
  • แต่เป็นการเข้าสู่ Super Cycle รอบที่สามของทองคำ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยปัจจัยเชิงโครงสร้างและภูมิรัฐศาสตร์ที่ลึกกว่าเดิม

โลกหลายขั้วอำนาจ กำลังเปลี่ยนบทบาทของทองคำ

ข้อมูลจากทีม Wealth Research หลักทรัพย์บัวหลวง ระบุว่า ท่ามกลางความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก ตั้งแต่ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก ไปจนถึงทะเลจีนใต้ ทองคำได้กลับมามีบทบาทสำคัญในฐานะ “สินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์” อีกครั้ง

ธนาคารกลางของหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น จีน รัสเซีย อินเดีย และประเทศในตะวันออกกลาง ได้เพิ่มการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐและลดความเปราะบางจากระบบการเงินตะวันตก ข้อมูลจาก World Gold Council ระบุว่า ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อตุนทองคำมากกว่า 1,000 ตันต่อปี ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 50 ปี

ทองคำเคยผ่านวัฏจักรขาขึ้นขนาดใหญ่ (Super Cycle) มาแล้ว 2 ครั้งในรอบ 50 ปี

  • รอบที่ 1 (พ.ศ. 2514–2523) : หลังสหรัฐยกเลิกระบบ Gold Standard ดอลลาร์สูญเสียการอิงทองคำ เกิดเงินเฟ้อสูงทั่วโลก ทองคำพุ่งจาก 35 ดอลลาร์ เป็นกว่า 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • รอบที่ 2 (พ.ศ. 2543–2554) : หลังวิกฤต ดอทคอม และ ซับไพรม์ สหรัฐอัดฉีด QE อย่างหนัก เงินเฟ้อและการด้อยค่าของดอลลาร์ผลักดันทองคำแตะ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์

รอบที่ 3 (พ.ศ. 2563–ปัจจุบัน) กลยุทธ์การลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการด้อยค่าของค่าเงิน (Debasement Trade) และภูมิรัฐศาสตร์

การขึ้นรอบใหม่นี้เริ่มจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้รัฐบาลทั่วโลกต้องใช้นโยบายการคลังและการเงินขนาดใหญ่ เงินหมุนเวียนทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งระหว่างชาติมหาอำนาจ เช่น สหรัฐ–จีน และรัสเซีย–ยุโรป ได้เร่งให้เกิดการ แยกขั้วทางเศรษฐกิจ (Decoupling)

ทองคำจึงถูกซื้อในฐานะ “Debasement Trade” การป้องกันความเสี่ยงจากการด้อยค่าของสกุลเงินหลัก และ “Safe Haven” ท่ามกลางโลกที่ไม่แน่นอน

โครงสร้างราคาทองคำในรอบนี้

ราคาทองคำเคลื่อนไหวเหนือระดับ 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ปัจจัยหนุนสำคัญคือ อุปสงค์จากภาคธนาคารกลางและนักลงทุนสถาบันในขณะเดียวกัน อุปทานใหม่จากเหมืองทองคำทั่วโลกเติบโตช้า จากต้นทุนการผลิตและข้อจำกัดทางสิ่งแวดล้อม

ทั้งหมดนี้ทำให้ทองคำกำลังเข้าสู่ช่วง “Revaluation” หรือการปรับมูลค่าเชิงโครงสร้าง ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ Super Cycle ระยะยาวอีกครั้ง

มุมมองเชิงกลยุทธ์

ในโลกหลายขั้วอำนาจที่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และค่าเงินเพิ่มขึ้น ทองคำจึงไม่ได้เป็นเพียง “สินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง” อีกต่อไป แต่กลายเป็น สินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Asset) ที่ธนาคารกลาง นักลงทุนสถาบัน และกองทุนความมั่งคั่งของรัฐ (SWF) ต้องมีไว้ในพอร์ต

ทีม Wealth Research หลักทรัพย์บัวหลวง ระบุว่า ทองคำกำลังเดินหน้าเข้าสู่ Super Cycle รอบที่สาม ภายใต้โลกหลายขั้วอำนาจที่แต่ละประเทศเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินของตนเอง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการ รีเซ็ตระบบการเงินโลกครั้งใหม่

กราฟสัดส่วนทองคำในสินทรัพย์สำรองของธนาคารกลาง-จีนเทียบกับตลาดเกิดใหม่ (ไม่รวมจีน)

ที่มา : บทวิเคราะห์ Cross Asset Strategy ฉบับวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568
  

ข่าวล่าสุด

“โคเวอร์แมท” เติบโตจาก “ศูนย์” สู่ New S Curve โตอีก 10X