ปากกับใจไม่ตรงกัน "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค"
รวมไทยสร้างชาติ..จะอยู่หรือไป ? เมื่อพรรคที่เคยต้าน กลับเงียบกริบในรัฐบาลแพทองธาร ชวนจับตาเกมเงียบที่ซ่อนเดิมพันเก้าอี้รัฐมนตรี!
KEY
POINTS
- รวมไทยสร้างชาติ..จะอยู่หรือไป ? เมื่อพรรคที่เคยต้าน กลับเงียบกริบในรัฐบาลแพทองธาร
- ชวนจับตาเกมเงียบที่ซ่อนเดิมพันเก้าอี้รัฐมนตรี!
ในบรรดาพรรคการเมืองที่จะร่วมรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร 2 ตอนนี้ พรรคที่สร้างความสับสนให้กับ FC ของพรรคมากที่สุด คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะไม่ชัดเจนว่าจะร่วมรัฐบาลหรือถอนตัว จะมีก็แต่กลุ่ม 18 ส.ส. ที่นำโดยสุชาติ ชมกลิ่น ที่ประกาศแต่แรกแล้วว่าสนับสนุนแพทองธาร ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ไม่กล้าแถลงมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเย็นวันที่ 19 มิถุนายน ที่เลือกเชิญแต่กรรมการในซีกของตัวเอง ไม่ให้กรรมการที่อยู่ในกลุ่ม 18 ส.ส.เข้าร่วมด้วย แต่กลับมีข่าวปรากฎในสำนักข่าวบางแห่งว่า ที่ประชุมมีมติให้ พีระพันธุ์ไปบอกแพทองธารว่า พรรครวมไทยสร้างชาติขอให้แพทองธารลาออกจากนายกรัฐมนตรีจึงจะเข้าร่วมรัฐบาล ถ้าไม่ลาออกพรรคจะถอนตัว ถ้าแพทองธารว่าอย่างไร จะกลับมาแจ้งให้ กรรมการบริหารพรรคทราบ เพื่อร่วมกันตัดสินใจต่อไป
ถึงวันนี้ เป็นที่แน่นอนแล้วว่า แพทองธารชินวัตรจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป และภูมิธรรม เวชชยชัย รองหัวหน้าพรรคไทยก็ยืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยังอยู่ต่อเหมือนเดิม
แต่ไม่เห็นพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศถอนตัวแต่อย่างใด ตัวหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคก็ปิดปากเงียบ
ทำไม พีระพันธุ์กับเอกนัฏ ไม่พูดตรงไปตรงมาว่า จะร่วมรัฐบาลต่อไป แต่กลับมีข่าวในโซเชียลว่า พีระพันธุ์ต้องเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานต่อไปเพื่อผลักดันกฎหมายพลังงาน เอกนัฏต้องอยู่ต่อเพื่อปราบโรงงานศูนย์เหรียญ
ทั้งนี้ พีระพันธุ์ โดยบทบาทหากไม่ได้เป็นรัฐมนตรีต่อ ในทางการเมืองก็ถือว่าต้องยุติบทบาทลง เพราะไม่ได้เป็น ส.ส.ด้วย เหลือแต่ตำแหน่งหัวหน้าพรรค ลอยๆ เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ การเมืองภายในพรรคก็แตกแยกเป็น 2 กลุ่ม ทำให้ยากที่จะควบคุมการทำงานของพรรค ยากที่จะได้รับการยอมรับภายในทำให้พรรคขาดเอกภาพ
ส่วนเอกนัฏนั้น เป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุด ถือว่ามาเร็วมาไกล เพราะยอมแขวนนกหวีดมาพายเรือให้ตระกูลชินวัตร ที่ตัวเองเคยนำคนลงถนนขับไล่ คงไม่อยากหลุดจากอำนาจไปในช่วงกำลังพุ่งแรง มิพักต้องพูดถึงงบประมาณกระทรวงอุตสาหกรรมจำนวนมาก ที่ถูกกระจายไปลงในพื้นที่ภาคใต้ที่เป็นฐานสำคัญของพรรค อย่างเช่นจังหวัดชุมพรและสุราษฎ์ธานี อาจกระทบหากไม่ได้เป็นรัฐมนตรี
ดังนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ จึงต้องร่วมรัฐบาลต่อไป แต่ไม่กล้าประกาศแบบตรงไปตรงมา ประกอบกับความพยายามสร้างภาพให้ FC พรรคจำนวนมากเข้าใจว่า พรรคนี้เป็น DNA ของลุงตู่ เป็นผู้นำคนใหม่ของปีกอนุรักษ์นิยม จะแก้ตัวอย่างไรว่า ทำไมต้องไปพายเรือให้แพทองธารนั่ง ก็คงยากที่จะทำให้ FC โดยเฉพาะด้อมพีทั้งหลายเข้าใจได้ ทำใจลง
จึงต้องใช้วิธีเดิมๆ เวลาที่มีปัญหาคือ เงียบและหนี สร้างข่าวกลบเกลื่อน เพื่อให้คนลืมไปเอง


