posttoday

ภาษีงานติดตั้งไฟฟ้าที่ธุรกิจอาจมองข้าม!

30 เมษายน 2568

อย่ามองข้าม! ภาษีงานติดตั้งไฟฟ้า ธุรกิจควรรู้รอบด้าน พร้อมเคลียร์เงื่อนไขและวิธีจัดการเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย ลดความเสี่ยง เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนของธุรกิจคุณ

ปัจจุบันการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย ภาครัฐได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลให้ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวตามไปด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ธุรกิจติดตั้งไฟฟ้าก็มีรายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นการส่งเสริมกันระหว่างภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องการเสียภาษียังคงเป็นประเด็นสำคัญที่พบได้บ่อย

ซึ่งภาษีในกลุ่มธุรกิจรับติดตั้งไฟฟ้า รายได้ที่เกิดขึ้นย่อมนำไปสู่ภาระภาษีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยภาษีที่เกี่ยวข้องหลักๆ มี 3 ประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยผู้ประกอบการรับติดตั้งไฟฟ้าอาจต้องเสียภาษีทั้ง 3  ประเภท หรือเพียงบางประเภทขึ้นอยู่กับการประกอบกิจการ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำความเข้าใจกับภาษีเหล่านี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ภาษีเงินได้งานติดตั้งไฟฟ้า

ภาษีเงินได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งเป็นภาษีที่เจ้าของกิจการต้องพิจารณาเลือกเมื่อเริ่มต้นธุรกิจ เนื่องจากแต่ละประเภทมีผลทางภาษีที่แตกต่างกัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1.ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ธุรกิจติดตั้งไฟฟ้าที่มีรายได้จากการรับเหมาเดินสายไฟ โดยที่ผู้รับเหมาเป็นผู้จัดหาวัสดุสำคัญ เช่น สายไฟ ปลั๊กไฟ เป็นต้น จะเข้าข่ายเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 7 ตามมาตรา 40(7) ซึ่งถือเป็นรายได้จากค่ารับเหมาที่รวมทั้งค่าแรงและค่าวัสดุ ดังนั้นการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะใช้สูตรดังนี้ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องชำระ

- ค่าใช้จ่ายที่สามารถหักได้ เจ้าของธุรกิจติดตั้งไฟฟ้าสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 วิธี หักตามจริง ต้องมีหลักฐานค่าใช้จ่าย เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี หรือเลือกหักแบบเหมา 60% ไม่ต้องใช้หลักฐานค่าใช้จ่าย

- ค่าลดหย่อน ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และสามารถใช้ค่าลดหย่อนอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนดได้

เมื่อคำนวณรายได้สุทธิ (รายได้หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน) แล้ว ให้นำมาคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า ตั้งแต่ 5-35% และยื่นภาษีตามรอบที่กำหนด ทั้งนี้ช่วงเวลายื่นภาษีสามารถยื่นได้ 2 รอบด้วยกันคือ 

- ภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.94)

          - คำนวณจากรายได้ระหว่างเดือน มกราคม - มิถุนายน ของปีภาษี

          - ยื่นภาษีระหว่าง กรกฎาคม - กันยายน ของปีนั้น

          - หากยื่นผ่านอินเทอร์เน็ต ขยายเวลาถึง 8 ตุลาคม

- ภาษีสิ้นปี (ภ.ง.ด.90)

          - คำนวณจากรายได้ระหว่างเดือน มกราคม - ธันวาคม ของปีภาษี

          - ยื่นภาษีระหว่าง มกราคม - มีนาคม ของปีถัดไป

          - หากยื่นผ่านอินเตอร์เน็ต ขยายเวลาถึง 8 เมษายน

2.ภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับธุรกิจรับติดตั้งไฟฟ้าที่ดำเนินการในรูปแบบบริษัทและจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ต้องมีการจัดทำบัญชี จัดทำงบการเงิน และยื่นภาษีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร โดยภาษีจะคำนวณจากกำไรสุทธิ ซึ่งมีอัตราอยู่ระหว่าง 15-20% ทั้งนี้รายได้ 300,000 บาทแรกได้รับการยกเว้นภาษี

โดยสูตรคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ รายได้หักค่าใช้จ่ายเพื่อหากำไรสุทธิ จากนั้นนำกำไรสุทธิมาคำนวณภาษีตามอัตราที่กำหนด

ภาษีมูลค่าเพิ่มงานติดตั้งไฟฟ้า

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับงานติดตั้งไฟฟ้าที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องยื่นแบบ ภ.พ.01 เพื่อขอจดทะเบียนภายใน 30 วัน นับจากวันที่มีรายได้เกินเกณฑ์ หลังจากจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว กิจการต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ว่าจ้าง และปฏิบัติตามเงื่อนไขเพิ่มเติมดังนี้

  • เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จากผู้ว่าจ้างสำหรับบริการติดตั้งไฟฟ้า พร้อมออกใบกำกับภาษีหลังได้รับค่าบริการหรือส่งมอบงาน
  • ขอใบกำกับภาษีทุกครั้งที่มีการซื้อสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับกิจการติดตั้งไฟฟ้า เพื่อนำภาษีซื้อไปใช้หักภาษีขายหรือขอเครดิตภาษีในเดือนถัดไป เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ วัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องมือที่ใช้ในงานติดตั้ง
  • จัดทำรายงานสินค้าและวัตถุดิบ จัดทำรายงานภาษีซื้อและภาษีขาย พร้อมทั้งยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย งานติดตั้งไฟฟ้า

ภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับกิจการที่รับติดตั้งไฟฟ้า จะหักภาษีกี่ได้% ขึ้นอยู่กับประเภทของผู้รับจ้างและลักษณะของงาน ส่วนกิจการเองจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายจากผู้ว่างจ้าง 3% โดยสามารถแบ่งออกเป็นกรณีหลักๆ ได้ดังนี้

1. กรณีกิจการรับติดตั้งไฟฟ้าเป็นนิติบุคคล (บริษัท/ห้างหุ้นส่วนฯ) ถ้างานติดตั้งไฟฟ้าเป็นการรับเหมาตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อได้รับเงินจากผู้ว่าจ้างจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ของค่าจ้าง ก่อนได้รับเงิน

2. กรณีเป็นบุคคลธรรมดา ถ้าเป็นการรับเหมาติดตั้งไฟฟ้าทั่วไป (มีการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ด้วย) นิติบุคคลผู้ว่าจ้างหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ของค่าจ้าง

นอกจากนี้ ในการออกใบกำกับภาษีทีกิจการรับติดตั้งไฟฟ้าต้องออกให้กับผู้จ่ายเงิน อาจมีกรณีที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย และกรณีที่ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ขึ้นอยู่กับลักษณะของรายการดังนี้

  1. หากออกใบกำกับภาษีหรือใบแจ้งหนี้โดยรวมราคาสินค้าและค่าบริการติดตั้งไฟฟ้าเป็นยอดเดียวกัน จะถือเป็นการขายสินค้า จึงไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
  2. หากออกใบกำกับภาษีหรือใบแจ้งหนี้โดยแยกราคาสินค้าออกจากค่าบริการติดตั้งไฟฟ้า จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 3% ลงในใบกำกับภาษี เฉพาะค่าบริการเท่านั้น

กล่าวโดยสรุป ธุรกิจงานติดตั้งไฟฟ้าอาจต้องเผชิญกับภาษีที่เกี่ยวข้องโดยไม่รู้ตัว เช่น ภาษีเงินได้จากการดำเนินกิจการ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่เกี่ยวกับการให้บริการ หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม หากธุรกิจมีรายรับเข้ามาเกิน 1.8 ล้านต่อปี

ทั้งนี้กิจการควรมีการจัดการบัญชีและเอกสารอย่างรอบคอบ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาภาษีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะค่าปรับที่เกิดจากการไม่ยื่นภาษี ทั้งนี้ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อให้มั่นใจว่ากิจการดำเนินไปได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่  Inflow Accounting