posttoday

ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง

10 กรกฎาคม 2567

การเสียภาษีและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME มีความแตกต่างจากบุคคลธรรมดา เพื่อช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ให้มั่นคงยิ่งขึ้น

          โดยปกติแล้วเมื่อมีรายได้จากการประกอบธุรกิจ ก็ต้องเสียภาษีไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา บริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือผู้ประกอบการ SME ซึ่งการเสียภาษีและสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็จะมีความแตกต่างกันออกไป

          ทั้งนี้ในบทความที่จะนำเสนอต่อไปนี้ จะมุ่งเน้นไปที่สิทธิประโยชน์ทางภาษีของผู้ประกอบการนิติบุคคล SME เพื่อช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ให้มั่นคงยิ่งขึ้น มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ได้รับยกเว้นและลดภาษี

          ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME มีสิทธิประโยชน์ตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมธุรกิจ SME ตามรายละเอียดดังนี้

          1. ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ได้รับการยกเว้นอัตราภาษี สำหรับกำไรสุทธิไม่เกิน 1-300,000 บาท

          2. ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ได้รับอัตราภาษีร้อยละ 15 ของกำไรสุทธิ สำหรับกำไรสุทธิที่เกิน 300,001 บาท แต่ไม่เกิน 3,000,000 บาท

          3. ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ได้รับอัตราภาษีร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิ สำหรับกำไรสุทธิที่เกิน 3,000,000 บาทขึ้นไป    

          โดยอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของมาตรการนี้ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป ทั้งนี้จะต้องเข้าเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ตามที่กำหนด คือ

           1. เฉพาะผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ซึ่งมีทุนที่ชำระแล้ว ในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5,000,000 บาท

          2. ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30,000,000 บาท ต่อเนื่องกัน ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในและหลังวันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป

ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME สามารถหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมทรัพย์สินได้

          ธุรกิจ SME ในนามนิติบุคคล หากมีทรัพย์สินสามารถหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินในอัตราเร่งได้ อธิบายได้ดังนี้

          1. ธุรกิจ SME ในนามนิติบุคคล ที่มีทรัพย์สินเป็นคอมพิวเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สามารถหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาเบื้องต้นในวันที่ได้ทรัพย์สินมา ในอัตรา 40% ของมูลค่าต้นทุน นอกจากนี้มูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือ ให้นำมาหักภายใน 3 รอบระยะเวลาบัญชี นับแต่วันที่ได้ทรัพย์สินนั้นมา

          2. ธุรกิจ SME ในนามนิติบุคคล ที่มีทรัพย์สินเป็นอาคารโรงงาน สามารถหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาเบื้องต้นในวันที่ได้ทรัพย์สินมา ในอัตรา 25% ของมูลค่าต้นทุน ซึ่งมูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือให้หักได้ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ไม่เกิน 5% นับแต่วันที่ได้ทรัพย์สินนั้นมา

          3. ธุรกิจ SME ในนามนิติบุคคล ที่มีทรัพย์สินเป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ของเครื่องจักร สามารถหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาเบื้องต้นในวันที่ได้ทรัพย์สินมา ในอัตรา 40% ของราคาต้นทุน ทั้งนี้มูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือให้หักได้ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 20% นับแต่วันที่ได้ทรัพย์สินมา

          โดยทุกข้อที่กล่าวมาต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขดังนี้ ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ที่มีทรัพย์สินถาวรไม่รวมที่ดิน ราคาโดยรวมต้องไม่เกิน 200 ล้านบาท และมีพนักงานไม่เกิน 200 คน  

ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME จ้างงานผู้สูงอายุ หักรายจ่ายได้ 2 เท่า

          เมื่อผู้ประกอบการนิติบุคคล SME มีการว่าจ้างผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถนำมาหักรายจ่ายได้ 2 เท่า แต่มีค่าจ้างไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งผู้ประกอบการสามารถจ้างได้ไม่เกิน 10% ของจำนวนลูกจ้างทั้งหมด โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขดังนี้

  1. เป็นผู้ประกอบการนิติบุคคล SME หรือบริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
  2. ว่าจ้างงานผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
  3. เป็นผู้สูงอายุที่ทำงานอยู่ในบริษัทก่อนแล้ว หรือขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางาน
  4. ค่าจ้างผู้สูงอายุเฉพาะรายที่จ่ายไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท
  5. เฉพาะรายจ่ายจากการจ้างผู้สูงอายุในส่วนที่ไม่เกิน 10% ของจำนวนลูกจ้างทั้งหมด
  6. ต้องไม่เป็นและไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่จ้าง หรือบริษัทฯ ในเครือ
  7. ถ้าผู้สูงอายุทำงานหลายแห่ง ให้บริษัทฯ ที่รับทำงานก่อนได้รับสิทธิ
  8. ใช้สิทธิได้ตั้งแต่รอบระยะบัญชี ที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค. 59 เป็นต้นไป

ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME พัฒนาฝีมือแรงงาน หักรายจ่ายได้ 2 เท่า

          กรณีผู้ประกอบการนิติบุคคล SME มีค่าใช้จ่ายในการส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรม หรือมีค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมให้แก่ลูกจ้าง สามารถนำมาหักรายจ่ายในการฝึกอบรม พัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ 2 เท่า โดยมีเงื่อนไขและหลักการดังนี้

          1. กรณีส่งลูกจ้างไปฝีกอบรม หรือเข้ารับการศึกษา มีเงื่อนไขดังนี้

          - หากมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษา เช่น ค่าใช้จ่ายการฝึกอบรม เช่น ค่าลงทะเบียน รวมถึงค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ที่สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฯ เรียกเก็บจากผู้ประกอบการนิติบุคคล SME ต้องมีใบเสร็จรับเงินของสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฯ นั้นๆ แนบท้าย

          - กำหนดเงื่อนไขให้กลับเข้าทำงานหลังศึกษา/ฝึกอบรมเสร็จ

          - ให้ผู้ประกอบการนิติบุคคล SME จัดทำรายงานค่าใช้จ่ายดังกล่าว

          2. กรณีฝึกอบรมให้ลูกจ้างของตนเอง มีเงื่อนไขดังนี้

          - เป็นหลักสูตรที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานของลูกจ้าง ซึ่งได้รับการรับรองจากกระทรวงแรงงาน และค่าใช้จ่ายเป็นไปตามอัตราที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงแรงงาน

          - จะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของกิจการ

          - จะต้องจัดทำทะเบียนลูกจ้างเพื่อเป็นหลักฐานการทำงาน

          - กำหนดเงื่อนไขให้กลับเข้าทำงานหลังจากฝึกอบรมเสร็จ

          - อุปกรณ์ที่จะใช้ในการฝึกอบรม ต้องกำหนดลักษณะ ขนาด และคุณสมบัติ เพื่อไม่ให้ปะปนกับที่ใช้ในการประกอบกิจการตามปกติของบริษัท (ข้อมูลจาก กรมสรรพากร)

          กล่าวโดยสรุป หากวิเคราะห์ดูดีๆ การประกอบธุรกิจ SME ในนามบุคคลธรรมดา อาจจะมีความยุ่งยากน้อยกว่าการประกอบธุรกิจในนามนิติบุคคล แต่แท้จริงแล้วการประกอบธุรกิจ SME ในนามนิติบุคคลจะมีตัวช่วยลดภาษีได้ถูกกว่า ดูได้จากข้อมูลที่นำเสนอมาข้างต้น แถมยังได้รับยกเว้นภาษีจากกำไรสุทธิ 3 แสนบาทแรกอีกด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่  Inflow Accounting