posttoday

Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคต AI ไทย

09 มิถุนายน 2567

สร้างเมล็ดพันธุ์ดิจิทัลที่มีความพร้อมต่อการสร้างรากฐานอนาคตของประเทศ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังคนดิจิทัลในระยะยาวและยั่งยืน

เมื่อเร็วๆนี้ ผมในนามของ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ คุณโอเมอร์ มาลิค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประเทศไทยและอินโดไชน่า บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตแบรนด์ซุปไก่สกัด ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมและสนับสนุนการยกระดับความรู้และทักษะด้านดิจิทัลให้กับเยาวชน ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค

ต้องเกริ่นอย่างนี้ครับว่า ปัจจุบัน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) และ depa มุ่งขับเคลื่อน National AI Strategy เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI ของประเทศ ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ 5 ด้าน ประกอบด้วย AI Importer การเตรียมความพร้อมรองรับการพัฒนา AI จากนอกประเทศ AI Provider การส่งเสริมการพัฒนา AI ภายในประเทศ AI Distributor การประยุกต์ใช้ AI เพื่อพัฒนาบริการดิจิทัล AI Manpower การเตรียมความพร้อมกำลังคนดิจิทัลสาขา AI และ AI User การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้ AI อย่างปลอดภัยแก่คนไทย 

depa มองว่า ความรู้และทักษะด้านโค้ดดิ้งถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะต่อยอดไปสู่โลกแห่ง AI ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ดำเนินโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างครูผู้สอนที่พร้อมถ่ายทอดความรู้และทักษะด้านโค้ดดิ้งแก่นักเรียนรุ่นต่อรุ่น พร้อมดำเนินการการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อมรองรับการเรียนรู้ ซึ่งทั้งหมดจะช่วยสร้างเมล็ดพันธุ์ดิจิทัลที่มีความพร้อมต่อการสร้างรากฐานอนาคตของประเทศ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังคนดิจิทัลในระยะยาวและยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายสำคัญในการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ (Human Capital) เครื่องยนต์ที่สามของนโยบาย The Growth Engine of Thailand กระทรวงดีอี

สำหรับการลงนามความร่วมมือระหว่าง ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) กับ depa ถือเป็นเครื่องหมายแห่งความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่มีเป้าประสงค์เดียวกันคือ การปลูกฝังความรู้ด้านโค้ดดิ้งแก่ประชาชนไทยตั้งแต่ระดับเยาวชนภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เด็กไทยเติบโตไปเป็นกำลังคนดิจิทัลที่มีคุณภาพ สามารถขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ คุณมาลิค บอกว่า ตลอดระยะเวลา 50 ปีในประเทศไทย บริษัทมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสุขภาพของคนไทย ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงการดำเนินชีวิตในเชิงบวก สร้างแรงบันดาลใจผู้บริโภคเพื่อที่จะเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด นอกจากนี้ บริษัทยังเชื่อมั่นในการตอบแทนสังคม โดยหนึ่งสิ่งที่ให้ความสำคัญคือ การพัฒนาศักยภาพสมองและมุ่งมั่นสร้างเสริมองค์ความรู้ด้านวิชาการให้กับเยาวชนในทุกภูมิภาคของประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับคนไทยทุกช่วงวัย เพื่อพัฒนาทักษะและเปิดโอกาสด้านการเรียนรู้สู่ความความสำเร็จในอาชีพในอนาคต ดังจะเห็นได้จากโครงการ BRAND’S Summer Camp ติวเข้มพิชิตการสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้กับนักเรียนทั่วประเทศ โดยจัดต่อเนื่องมาถึง 31 ปี

คุณมาลิค กล่าวต่อว่า ปีนี้ยังคงยึดมั่นในการตอบแทนสังคมผ่านการพัฒนาศักยภาพทางสมองของเยาวชน ปลูกฝังความสนใจและสร้างเสริมให้เกิดองค์ความรู้ด้าน AI และโค้ดดิ้ง ซึ่งเป็นความรู้ใหม่แห่งโลกอนาคตที่จะช่วยให้เยาวชนสามารถปรับตัว เพิ่มพูนศักยภาพให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว จึงเกิดเป็นแคมเปญสุดยิ่งใหญ่อย่าง BRAND’S Brain Camp บูสต์สมองเด็กไทย สู่โลก AI ไร้ขีดจำกัด สอดคล้องกับบทบาทของ depa ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในมิติของการพัฒนากำลังคน ยกระดับภาคเศรษฐกิจ และขับเคลื่อนชุมชนสู่สังคมดิจิทัล บริษัทจึงร่วมสนับสนุนโครงการ Coding for a Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและต้องขอขอบคุณ กระทรวงดีอี depa และกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ช่วยให้เกิดโครงการดี ๆ ที่สร้างสรรค์และตอบแทนสู่สังคม

สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทยได้ที่ Facebook Page: CodingThailand by depa

โดย : ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)

ข่าวล่าสุด

ทองคำพุ่งทำสถิติใหม่ ทะลุ 4,400 ดอลลาร์ครั้งแรก จากคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย