posttoday

ลงทุนอย่างไร ? เมื่อเฟดไม่รีบลดดอกเบี้ย

11 กุมภาพันธ์ 2567

ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% พร้อมส่งสัญญาณจบดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ยังไม่รีบลดดอกเบี้ย วางแผนลงทุนอย่างไร

     จากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อคืนวันพุธที่ 31 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา มีมติคงดอกเบี้ยตามคาดที่ระดับ 5.25-5.50% พร้อมส่งสัญญาณจบดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ยังไม่รีบลดดอกเบี้ย จนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงทั้ง 3 ดัชนีหลัก ในคืนวันพุธที่ 31 ม.ค. 67 คือ 
     • Dow Jones -317.01 จุด (-0.82%) 
     • S&P 500 -79.30 จุด (-1.61% 
     • Nasdaq -345.89 จุด (-2.23%) 

     โดยผลการประชุมเฟดจะมีส่วนสำคัญด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน คือ นโยบายการเงิน รายงานการประชุม และช่วงนักข่าวถาม-ตอบ Q&A กับท่านประธานเฟด

      ส่วนที่ 1 คือ เรื่องนโยบายการเงิน เฟดคงดอกเบี้ยตามคาดที่ระดับ 5.25-5.50% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งส่วนตรงนี้ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพร์สตลาดมากนัก ตลาดก็คาดคงดอกเบี้ยในรอบนี้เช่นเดียวกัน แต่ประเด็นที่สร้างความผันผวนให้กับตลาด คือ ส่วนที่ 2 และ 3 นั่นก็คือ รายงานการประชุม หรือที่เรียกกันว่า Statement ที่นำผลการประชุมเฟดมาทำเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีประโยคเด็ดที่ระบุว่า 

     "เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขยายตัวแข็งแกร่ง ส่งสัญญาณจบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ไม่รีบลดดอกเบี้ย จนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% และจะพิจารณาข้อมูลอย่างระมัดระวัง" ซึ่งหมายความว่า “ถึงไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อ แต่ก็ไม่ได้รีบลดดอกเบี้ย”

     แล้วมาดับฝันตลาดอีกทีในส่วนที่ 3 คือ ช่วงถาม-ตอบ Q&A ที่ย้ำอีกครั้งว่า "ในเดือน มี.ค. อาจยังไม่ใช่จังหวะที่จะลดดอกเบี้ย" ถึงแม้ว่าเงินเฟ้อจะลดลงต่อเนื่องก็ตาม แต่ยังมั่นใจไม่ได้ ขอพิจารณาข้อมูลที่ได้รับมาเป็น Meeting By Meeting ไม่รับประกันอะไรทั้งนั้น ทำให้ปลุกนักลงทุนตื่นจากฝันให้กลัมาเทขายหุ้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาแดงเถือก

     ประเด็นที่อยากชวนตั้งคำถามในวันนี้ คือ เราจะลงทุนอย่างไรดี หลังเฟดไม่รีบลดดอกเบี้ย โดยประโยคที่ว่า “เฟดไม่รีบลดดอกเบี้ย แต่จะลดดอกเบี้ยภายในปีนี้ ” นั่นหมายความ ยังไม่รีบลดดอกเบี้ยตอนนี้ เพราะมันเร็วเกินไป ซึ่งตลาดหวังว่าจะลดดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. 67 นี้เลย โดยเฟดขอบ๊ายบายก่อน เฟดขอดูเป็นกลางปี หรือไม่ก็ครึ่งปีหลังน่าจะเหมาะสม ดังนั้นตลาดกำลังอยู่ในช่วงเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายไปแล้ว เป็นการจบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น และมีโอกาสที่จะเข้าสู่ระยะเฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรก เป็นการเริ่มต้นดอกเบี้ยขาลง

ลงทุนอย่างไร ? เมื่อเฟดไม่รีบลดดอกเบี้ย

     จากสถิติย้อนหลังนับตั้งแต่ปี 1974 พบว่า หากเฟด “ขึ้น” ดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย เป็นการจบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น "ตลาดหุ้น (S&P500) จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี ในอีก 12 เดือนข้างหน้า" โดยเฉพาะหากเศรษฐกิจเป็นเพียง Soft Landing และเมื่อเข้าสู่ระยะ เฟด “ลด” ดอกเบี้ยลงครั้งแรก เป็นการเข้าสู่วงจรเริ่มต้นดอกเบี้ยขาลง พบว่า "ตลาดหุ้น (S&P500) ก็ยังจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีใน 1 เดือนแรก" หลังจากนั้นจะปรับตัวลดลง ก่อนเคลื่อนไหว Sideway Up ออกด้านข้าง 

     ขณะที่ "ตราสารหนี้" มักจะทำผลตอบแทนได้ดีและโดดเด่นทั้ง 2 ช่วงเวลา เมื่อเฟด “ขึ้น” ดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น และเมื่อ เฟด “ลด” ดอกเบี้ยครั้งแรก เริ่มต้นดอกเบี้ยขาลง

     ทีมวิจัยหลักทรัพย์บัวหลวง มองว่าตลาดหุ้นจะทำผลตอบแทนได้ดี และปรับตัวบวกต่อได้ในช่วงครึ่งปีแรก เพราะจากสถิติตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีหลังเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย และเมื่อเข้าสู่ช่วงเฟดลดดอกเบี้ยครั้งแรกที่เราคาดว่าในช่วงประมาณกลางปี ตลาดก็ยังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่ออีก 1 เดือนข้างหน้า ก่อนปรับตัวลดลง และเคลื่อนไหว Sideway Up ออกด้านข้าง ทำให้เรามองว่า หากตลาดมีการย่อตัวลงมา จะช่วยลดความตึงตัวของราคาหุ้นได้ และเป็นโอกาสในการเข้าทยอยซื้อสะสมลงทุน

     รายงาน BLS Top Funds ของหลักทรัพย์บัวหลวง แนะนำ 5 กองทุนตัวท็อป พกไว้ติดพอร์ตไม่มีผิดหวัง

     1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังหุ้นกลุ่มนี้ ยังมีแนวโน้มกำไรดี กระแส AI Boom ยังช่วยหนุน การที่ราคาย่อตัวลงจะช่วยลดความตึงตัว โดยกองทุนแนะนำตัวท็อป คือ 

          • B-INNOTECH กองทุนหุ้นเทคฯ คุณภาพดีทั่วโลก มีรายได้กำไรสม่ำเสมอ งบแข็งแกร่ง

          • MEGA10-A กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่มีแบรนด์ชั้นนำระดับโลก 10 หุ้นตัวท็อป 

     2. ตลาดหุ้นอินเดีย เน้นกำไรบริษัทยังเติบโตแข็งแกร่ง เศรษฐกิจมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยกองทุนแนะนำตัวท็อป คือ

          • B-BHARATA กองทุนหุ้นอินเดียขนาดกลางใหญ่คุณภาพดี เป็นผู้นำของอุตสาหกรรม และที่ได้รับประโยชน์เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ

     3. ตลาดหุ้นเวียดนาม นโยบายภาครัฐช่วยหนุน ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง ราคายังถูก Momentum ดีต่อเนื่อง โดยกองทุนแนะนำตัวท็อป คือ

          • PRINCIPAL VNEQ-A กองทุนหุ้นเวียดนาม ชื่อเสียงโด่งดัง การันตีคุณภาพจากผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมาทำได้อย่างโดดเด่น ตัวท็อปของกลุ่ม

     4. ตราสารหนี้ต่างประเทศ รับเทรนด์จบรอบดอกเบี้ยขาขึ้น โดยกองทุนแนะนำตัวท็อป คือ 

          • ABGFIX-A ที่เน้นลงทุนตราสารหนี้คุณภาพดี อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้เฉลี่ยของพอร์ตไม่ต่ำกว่า A- มีความผันผวนต่ำอายุตราสารหนี้เฉลี่ยน้อยกว่า 2 ปี ลดความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ยที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยมีอัตราผลตอบแทนเมื่อถือจนครบกำหนด YTM น่าสนใจที่ระดับ 6.0%++ ต่อปี และเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่สามารถรับเงินค่าขายคืนภายใน 2 วันทำการ  (T+2) เท่านั้น มีสภาพคล่องสูง

     สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนแนะนำตัวท็อป ท่านสามารถลงทุนได้ผ่านแอปพลิเคชัน Streaming Fund+ สมัครเปิดบัญชีหุ้นพร้อมกองทุน สะดวก ง่าย ไม่ต้องส่งเอกสาร อนุมัติทันใจภายใน 15 นาที ได้ที่ https://bls.tips/FBTeam สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111