สตาร์ทอัพสายเทคใช้ AI มาช่วยเปลี่ยนเกมการทำงานในมุมไหนกัน
หลายคนรู้ว่า AI มีประโยชน์ต่อทั้งฝั่งทีมการตลาดและทีมธุรกิจได้ โดยเฉพาะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ครั้งนี้จะมาเปิดเผยว่าสตาร์ทอัพสายเทคใช้ AI ช่วยเปลี่ยนเกมการทำงานในมุมไหนกันได้บ้าง
จากที่เคยคุยกันในตอนที่แล้วว่า AI สามารถเอามาประโยชน์ในฝั่งของทีมการตลาดและทีมธุรกิจได้ ก็จะเห็นได้ว่า AI สามารถนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น ช่วยลดเวลาในการทำงานจากหลาย ๆ วัน มาเป็นแค่ 5 ถึง 10 นาทีได้ ถ้าเราใช้งานได้อย่างถูกต้อง และวันนี้เราจะมาคุยว่าถ้าเราจะนำ AI มาใช้ใน Tech Team ในองค์กรเราจะนำมาช่วยในมุมไหนได้?
1. ใช้ AI ช่วยดึงดีไซน์ UX/UI มาพัฒนาในแอปพลิเคชันได้แบบอัตโนมัติ
หนึ่งในคุณสมบัติที่เจ๋งมาก ๆ ของ AI คือ สามารถปรับเปลี่ยนดีไซน์ของทีม UX/UI มาพัฒนาในแอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดาย โดยที่แทบจะไม่ต้องเขียนโค้ดเพิ่มเติม ทำให้ลดการทำงานของโปรแกรมเมอร์ไปได้เป็นอย่างมาก
ในอนาคตเราอาจจะสามารถสอนให้ AI ได้รู้จักดีไซน์ของเราก่อน แล้วระบุว่าอยากแก้ดีไซน์แบบไหน โดยใช้คำสั่งธรรมดา เช่น เปลี่ยนสีจากสีดำ ให้เป็นสีขาว หรือ ให้นำปุ่ม “Next” ออก ให้เราได้เลย โดยไม่ต้องผ่านทีม UX/UI เมื่อไม่ต้องเกี่ยวกับเขียนโค้ด การใช้ AI นำมาช่วยในสิ่งนี้ไม่เพียงแต่ย่นระยะเวลาในการทำงาน แต่ยังสามารถลดข้อผิดพลาดของการเขียนโค้ดหรือทำให้เราเรียกว่า Bug ได้ ในอนาคต AI อาจจะสามารถถูกสอนให้จดจำรูปแบบและใช้ดีไซน์หรือเปลี่ยนแปลงดีไซน์จากความต้องการของผู้ใช้งานได้เลย ทำให้ลดงานของทางทีม UX/UI และเทคโนโลยี ทีมไปอย่างมากมายมหาศาล
เช่น sketch2code ของ Microsoft ที่เอา Computer Vision มาปรับปรุงเป็น Custom model ที่เข้าใจลายมือเขียนและเข้าใจ Element ต่าง ๆ ของหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถสร้างโค้ด HTML สำหรับเว็บไซต์จากตัวอย่าง Website design ที่เป็นลายมือเขียนได้ (อ้างอิงจาก: https://learn.microsoft.com/en-us/shows/ai-show/sketch2code)
2. ใช้ฟังก์ชัน AI ช่วยเขียนโค้ด
ปกติโปรแกรมเมอร์จะใช้เวลานานในการเขียนโค้ดและ Debugging แต่หลังจากใช้ AI Tool เช่น Github Co-Pilot เข้ามาเปลี่ยนเกม โดยแนะนำโค้ดที่จะเขียน โดยอ่านจากโค้ดที่เคยเขียนไปแล้ว และสามารถแนะนำโปรแกรมเมอร์ว่าควรเขียนโค้ดอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการเขียนลอจิกง่าย ๆ หรือการให้เขียนโปรแกรมง่าย ๆ ระดับความยากไม่ซับซ้อนนัก
ข้อนี้ไม่ได้ช่วยเพียงแค่ประหยัดเวลาในการพัฒนาโค้ด แต่ช่วยทำให้ Logic ดีขึ้นและ Syntax Errors ลดลง นักพัฒนาไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์อีกต่อไป แล้วก็พึ่งพา AI ในการแนะนำขั้นตอนการเขียนโค้ด ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้รวดเร็วขึ้นไปอีก
3. งานควบคุมคุณภาพของการเขียนโค้ดแบบอัตโนมัติ
AI ยังเข้ามามีส่วนร่วมในการควบคุมคุณภาพของการเขียนโค้ดด้วย โดยปกติแล้วขั้นตอนการควบคุมคุณภาพหรือที่เราเรียกว่า QA เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลา และต้องทำโดยคน ซึ่งต้องให้ Tester หรือผู้ทดสอบระบบทำการเขียน Test Script และสร้างข้อมูลสำหรับการทดสอบ (Test Data) ขึ้นมา สิ่งที่ AI เข้ามาช่วยได้คือ AI สามารถช่วยสร้าง Test Case และข้อมูลที่ใช้ในการทดสอบแบบอัตโนมัติ ตามคุณลักษณะเฉพาะของโค้ดที่ต้องการเขียน ซึ่งสิ่งนี้ช่วยทำให้งานการทดสอบระบบเป็นไปได้อย่างง่ายดายขึ้นมาก เนื่องจากเวลาที่ใช้ในการเขียน Test Case และสร้างข้อมูลในการทดสอบใช้เวลาค่อนข้างสูง
เช่น Code Defect AI ของ Microsoft ที่พัฒนา Customer Classification Model เพื่อตรวจสอบ Code ว่ามีข้อผิดพลาดหรือไม่ (อ้างอิงจาก: https://www.microsoft.com/en-us/AI/ai-lab-code-defect)
4. งานเฝ้าระวังระบบและตรวจสอบความผิดพลาดในระบบแบบอัตโนมัติ
ความสามารถของ AI นอกเหนือจะช่วยเขียนโค้ดและการทดสอบระบบแล้ว AI ยังช่วยเฝ้าระวังระบบ และตรวจสอบการทำงานของระบบว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ผ่าน System Log เพื่อบ่งชี้ถึงโอกาสที่จะเกิดปัญหาหรือความผิดปกติของระบบ ก่อนที่มันจะมีปัญหาใหญ่ตามมา ซึ่งการเฝ้าระวังแบบนี้ช่วยให้การทำงานมีความราบรื่นขึ้น และลดเวลาที่ระบบล่มได้เป็นอย่างดี
ข้อสรุปของการใช้ AI ใน Tech Team ก็คือ สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานลดการทำงานที่ซ้ำซากและเพิ่มคุณภาพของงานได้
พูดถึงประโยชน์ของ AI มาตั้งเยอะแยะแล้ว ที่นี้คนที่อยู่ในวงการก็เริ่มมีความหนาว ๆ แล้วว่า AI จะเข้ามาทำงานแทนชั้น แต่จริง ๆ แล้ว AI นั้นเข้ามาช่วยงานมากกว่า แต่ว่างานแบบไหนกันนะที่ AI ยังไม่สามารถทำแทนมนุษย์ได้ (แต่อนาคตก็ไม่แน่) เราลองมาดูกัน
1. ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม: AI ทำได้ดีในงานที่ซ้ำซากและมีข้อมูลให้ประมวลผล แต่มันคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม การสร้างความคิดใหม่ๆ การคิดออกนอกกรอบไม่ได้ ดังนั้น เราควรใช้เวลาที่เราประหยัดได้จากการใช้งาน AI มาส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และมาทำงานสนุก ๆ กันดีกว่า
2. การตัดสินใจเกี่ยวกับคุณค่าและจริยธรรม: AI ไม่สามารถทำการตัดสินใจเกี่ยวกับคุณค่าและจริยธรรมได้ ในสถานการณ์ที่การตัดสินใจทางเทคนิคเกี่ยวข้องกับปัญหาจริยธรรมที่ซับซ้อน เช่น การเก็บความเป็นส่วนตัวหรือผลกระทบต่อสังคม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหมือนอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา แต่ AI มันไม่เข้าใจนะ แล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เลยทีเดียว
3. การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน: แม้ว่า AI จะช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและให้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจ แต่อาจไม่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนและหลากหลาย ซึ่งต้องการความเข้าใจลึกซึ้งในด้านต่าง ๆ และความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลหลาย ๆ อย่างเข้าด้วยกัน ซึ่งมักเป็นปัญหาที่ใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วยอย่างมาก
ตอนนี้หลายคนก็คงจะรู้กันมากขึ้นแล้วว่า AI ก็ดีจริง ๆ แหละ แต่ก็ยังต้องมีคนอย่างเราเข้ามาช่วย ถ้าเรารู้จักการนำ AI มาใช้ประโยชน์ เราก็สามารถเอาเวลาที่เหลือจากการประหยัดเวลา มาทำอย่างอื่นได้อีกมากมายเลยทีเดียวค่ะ
โดย: ณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (Buzzebees) และ Guru ด้าน CRM & Digital Engagement Platform และสถาพน พัฒนะคูหา GuardianGPT


