วิธีการใช้คอนโด จด VAT สำหรับแม่ค้าออนไลน์

โดยจุดเด่นของตลาดออนไลน์คือการเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและตลาดค่อนข้างกว้าง แต่เมื่อใดก็ตามที่เริ่มขายของออนไลน์ ผู้ที่มีรายได้เหล่านี้ต้องมีหน้าทีเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และตามกฎหมายกำหนดให้เมื่อผลประกอบการเกิน 1.8 ล้านต่อปี ซึ่งหลายคนไม่ค่อยทราบว่าจะต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย และปัญหาที่ตามมาคือ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะต้องมีบ้านที่ใช้เป็นสถานประกอบการยื่นจด VAT แต่เนื่องจากอาชีพขายของออนไลน์สามารถทำงานได้ทุกที่ อยู่คอนโดมิเนียมก็สามารถขายของออนไลน์ได้ ซึ่งเดิมทีกฎหมายไม่อนุญาตให้ใช้คอนโดเป็นสถานประกอบการ จึงทำให้คนทั่วไปไม่สามารถยื่นขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้

โดยล่าสุดกรมสรรพากรได้ยื่นมือเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ สามารถใช้คอนโดเป็นสถานประกอบการเพื่อยื่นจด VAT ได้แล้ว แต่ก็มีเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง และข้อปฏิบัติต่างๆ ดังนี้

ขายของออนไลน์ทำไมต้องจด VAT   

ตามกฎเกณฑ์ของกรมสรรพากรเมื่อประกอบอาชีพและมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี (แต่หากมีเงินเดือนประจำไม่ต้องนำมาคำนวณ) จะต้องยื่นแบบ ภ.พ.01 ขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภายในไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท  และนำเงิน 7% จากราคาขายสินค้า นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มทุกๆ เดือน นับตั้งแต่วันที่ยื่นจดทะเบียนเป็นต้นไป

แต่เมื่อใดก็ตามหากมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท แล้วไม่ไปยื่นขอจดทะเบียน VAT หรือไปจดล่าช้า จะต้องเสียภาษีย้อนหลังเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้ากรมสรรพากรตรวจสอบพบว่ามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท แต่ไม่ได้จด VAT จะต้องเสียค่าปรับตั้งแต่ 2-20% และเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน นับตั้งแต่วันแรกที่มีราย

ได้เกิน 1.8 ล้านบาท จนถึงวันที่ยื่นขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือจนถึงวันที่ทางกรมสรรพากรตรวจสอบ

ถ้าหากพ่อค้าแม่ค้าไม่ยอมจด VAT เมื่อมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย คือ ต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยตนเอง หากทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายสินค้าหรือบริการ ไม่สามารถเก็บได้จากลูกค้า และไม่สามารถออกใบกำกับภาษีได้ เนื่องจากไม่ได้จด VAT ต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับ 2 เท่า ของเงินภาษีที่ต้องเสียในเดือนภาษีตลอดระยะเวลาที่ไม่ได้จด VAT หรือเท่ากับเป็นเงิน 1,000 บาทต่อเดือนภาษี

นอกจากนี้ยังไม่สามารถนำ VAT ที่ถูกร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่จด VAT เรียกเก็บ มาเป็นภาษีซื้อเพื่อหักออกจากภาษีขายได้ เนื่องจาก VAT ที่ถูกเรียกเก็บไม่เข้าลักษณะเป็นภาษีซื้อ ​​

ขายของออนไลน์ในคอนโด ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรจึงจด VAT ได้

มาดูกันว่าคุณสมบัติของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่เข้าข่ายสามารถนำคอนโดที่ใช้ประกอบการมาขอจดVAT มีอะไรบ้าง

1. บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย

2. อาศัยในอาคารชุด (คอนโดมิเนียม)

3. จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

4. มีสถานประกอบการอยู่ในอาคารชุดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น

เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นจด VAT สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์

ที่ผ่านมาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไม่สามารถใช้อาคารชุดหรือคอนโดเป็นสถานประกอบการในการจดทะเบียน VAT ได้ แต่ในปัจจุบันสามารถทำได้แล้ว โดยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี และเข้าเงื่อนไขในการใช้คอนโดขอจด VAT ได้ จะต้องเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่ออัพโหลดส่งเป็นหลักฐานให้กรมสรรพากรดังนี้

• กรณีเช่าคอนโดให้เตรียมสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์  หรือหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ (กรณีเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้ใช้อสังหาริมทรัพย์นั้น โดยไม่มีค่าตอบแทน)
• เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นสถานประกอบการ (กรณีเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ใช้ที่อยู่อาศัยของตนเองเป็นสถานประกอบการ)
• สำเนาทะเบียนบ้าน (คอนโด) ที่ใช้ตั้งสถานประกอบการ
• ภาพถ่ายหนังสือรับรองจากผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดที่ระบุว่า “สถานที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ประกอบการค้าของอาคารชุด”
• แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานประกอบการ พร้อมภาพถ่ายสถานประกอบการ (คอนโด)
• สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ใช้ประกอบกิจการ (ถ้ามี)

ขั้นตอนการจด VAT

เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว จะมาถึงขั้นตอนการของการจด VAT ซึ่งสามารถยื่นแบบออนไลน์ได้อย่างเดียวเท่านั้น โดยมีรายละเอียดและสามารถทำตามขั้นตอนได้ดังนี้

1.จดทะเบียนได้ที่ www.rd.go.th ช่องทางเดียวเท่านั้น โดยสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

2.ใส่เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก พิสูจน์และยืนยันตัวตนดิจิตอล (NDID)

3.ต้อง Upload เอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถดูรายละเอียด www.rd.go.th

กล่าวโดยสรุป เดิมทีถ้าสถานประกอบการเป็นคอนโดจะไม่สามารถจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้เลย เมื่อข้อกฎหมายได้รับการแก้ไขแล้วนั้น นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่จะได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ที่ต้องการจะจด VAT เมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ 1.8 ล้านบาทต่อปี โดยต้องมีหนังสือรับรองจากผู้จัดการนิติบุคคลว่าอยู่ในพื้นที่ประกอบการเท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตามผู้มีรายได้ต้องจำไว้เสมอว่า การจดยื่น VAT ห้ามยื่นข้อมูลที่เป็นเท็จเด็ดขาดต้องใช้ข้อมูลที่เป็นความจริงเท่านั้น เพราะจะมีความผิดทางกฎหมาย และหลังจากจด VAT แล้ว พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) และต้องยื่นเป็นประจำทุกเดือนแม้ว่าเดือนนั้นๆ จะไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องยื่นก็ตาม

 

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่  Inflow Accounting