posttoday

เพชรแท้ เป็นทางเลือกการลงทุนที่คุ้มค่า ราคาแรงหลังสถานการณ์โควิด-19

01 มกราคม 2566

เพชรแท้ เป็นการลงทุนทางเลือก หรือ Alternative Investment ที่คุ้มค่า แม้จากเดิมเหมาะกับลงทุนระยะยาว เพราะมูลค่าและราคาปรับขึ้นตามกาลเวลา แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ซัพพลายลดลง ก็ยิ่งราคาสูงขึ้น จึงทำให้มูลค่าเติบโตเร็วขึ้นและเห็นผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะกลางด้วย

เพชรแท้เป็นสินทรัพย์มูลค่าเติบโตต่อเนื่อง ด้วยราคาที่ปรับขึ้นตามกาลเวลา จากเดิมจึงเหมาะสมในการลงทุนระยะยาว แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ซัพพลายของเพชรลดลง ทำให้ราคาเพชรแท้มีการปรับตัวเพิ่มสูง จึงทำให้การลงทุนในเพชรเห็นมูลค่าการเติบโตที่เร็วขึ้น

 

ดังนั้น การลงทุนในเพชรจึงเห็นผลตอบแทนที่น่าสนใจในการลงทุนระยะกลาง ด้วยอนาคตมูลค่าเพชรแท้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยที่ซัพพลายลดลง และการเปิดประเทศของประเทศจีนจะทำให้ความต้องการการใช้เครื่องประดับเพชรแท้เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกับการปรับตัวของราคาเพชรโดยตรง 

 

ทำไม “เพชรแท้” เป็นทางเลือกการลงทุนที่คุ้มค่า


1.    เพราะ“เพชร” คือการลงทุนที่คุ้มค่า  

ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ล้ำค่าที่นักลงทุนนิยมเลือกเป็นทางเลือกการลงทุนระยะยาว เนื่องจากเพชรไม่ได้เป็นเพียงแค่สินทรัพย์ที่ไว้สวมใส่เป็นเครื่องประดับเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้นได้ในอนาคต นอกจากความนิยมในการสะสมเพื่อมอบเป็นมรดกให้แก่รุ่นสู่รุ่นแล้ว เพชร ยังถือเป็นสินทรัพย์คงทนในแง่ของคุณภาพที่จะอยู่กับผู้ถือครองอย่างยาวนานตามกาลเวลาไม่ว่าจะ 10 ปี 20 ปี หรือ 100 ปี

 

นอกจากนี้เพชร ยังถือเป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าไม่เลือนหาย อีกทั้งยังถูกจัดเป็น Alternative Investment หรือ สินทรัพย์ทางเลือกที่ดี และยังเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่มั่นคงในการลงทุน สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ในตลาดโลก ไม่ต่างจากทองคำ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ใช้กันทั่วโลกและมีใบรับรองคุณภาพ (certificate) ที่มีมาตรฐานโลกรองรับ

 

2.    ราคาเพชรมีแนวโน้มสูงขึ้น

เพชร ถือเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของอุตสาหกรรมเพชรแท้ มีมาร์เก็ตแชร์ของตลาดการใช้เครื่องประด้บเพชรรวมที่กว่า 60% ทั้งนี้ในฐานะที่ Jubilee Diamond อยู่ในวงการเพชรมายาวนานกว่า 93 ปี มองว่าปัจจุบันสถานการณ์ตลาดเพชรทั่วโลกยังคงขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภาวะการฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก

 

รวมถึงการเปิดประเทศของจีนในระยะเวลาอันใกล้ แม้ยังคงมีสภาวะเสี่ยงอย่างเงินเฟ้อเข้ามามีผลกระทบอยู่บ้าง แต่ไม่ได้กระทบต่อความต้องการในการซื้อเพชรของนักลงทุนทั่วโลกมากนัก สะท้อนให้เห็นว่าความเสี่ยงของการลงทุนในเพชรนั้นมีแนวโน้มที่ต่ำมาก เพราะราคามีความมั่นคงที่ไม่ผันผวนแรงเท่ากับสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ และแม้จะมีความผันผวนก็ไม่ได้เกิดขึ้นในระยะยาว 

 

3.    ซื้อเพชรเพื่อการลงทุนต้องมีใบรับรอง

การเลือกซื้อเพชรควรเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ มีใบรับรองจากสถาบันที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล อาทิ GIA หรือ HRD ซึ่งปัจจุบันการซื้อเพชรเริ่มต้นที่ขนาด 30 สตางค์ขึ้นไปก็สามารถได้รับใบรับรองจากสถาบันที่ทั่วโลกให้การยอมรับได้ ซึ่งนอกจากจะสร้างความมั่นใจในคุณภาพของเพชรแล้ว ยังสามารถทำให้การขายต่อในอนาคตมีความคล่องตัวด้วย

 

แต่สิ่งที่ควรระวังเกี่ยวกับใบรับรองคือต้องตรวจสอบรายละเอียดให้มั่นใจว่าเป็นใบรับรองของแท้ โดยสามารถเช็คได้ที่เว็บไซต์ของสถาบันรับรองว่าหมายเลขถูกต้องหรือไม่ และการไม่เหมือนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น จึงต้องเลือกซื้อเพชรในแบบที่ถูกต้อง นอกจากเลือกซื้อจากความงามแล้ว คุณภาพต้องถูกต้องตามหลัก 4Cs ได้แก่ 1.Cut การเจียระไน 2.Color สี 3.Carat Weight น้ำหนักกะรัต และ 4.Clarity ความสะอาด 

 

นอกจากนี้ ปัจจุบันเพชรถือเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ระดับโลกที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุน ตอบโจทย์เรื่องการกระจายความเสี่ยง ช่วยลดความผันผวนในพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนที่มีสินทรัพย์เสี่ยงราคาหวือหวา ด้วยคุณสมบัติของเพชรที่เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ราคาอาจเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้หวือหวามาก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองการลงทุนคุ้มค่าในระยะกลางถึงยาว 

 

ดังนั้นแนวโน้มการลงทุนของเพชรในปี 2566 ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่เน้นคุณค่าและพร้อมให้เวลาเป็นตัวกำหนดราคา เพราะเพชรเป็นสินทรัพย์ที่มูลค่ามีแนวโน้มปรับสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งเป็นสินทรัพย์ที่ยิ่งอยู่นานยิ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา สำหรับผู้ที่เริ่มสนใจที่จะเริ่มลงทุนใน “เพชร” อาจเริ่มด้วยการหาแบรนด์เพชรที่น่าเชื่อถือ อีกทั้ง


แม้ว่าเพชรจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่บ้างเหมือนกับการลงทุนในรูปแบบอื่น เช่น คาดการณ์ราคาในอนาคตค่อนข้างลำบาก แต่ถ้าลงทุนในระยะยาว 3-5 ปีขึ้นไปก็ชนะเงินเฟ้อได้ดี นอกจากนั้นราคาเพชร มีความเชื่อมโยงกับค่าเงิน เช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่น ๆ ถ้าเงินบาทอ่อนราคาเพชรจะแพง เงินบาทแข็งราคาเพชรจะถูก 

 

อย่างไรก็ตามต่อให้การลงทุนใน "เพชร" จะมีความเสี่ยงบ้าง แต่ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมากลับได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะเพชรมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะมีวิกฤตทางเศรษฐกิจหรือโรคระบาด ราคาของเพชรยังคงเติบโตขึ้นได้ เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ และปัจจุบันก็เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

 

โดย : อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์