Snow Ball Effect ผลกระทบเล็กๆสู่ปมใหญ
คอลัมน์ Great Talk
Snow Ball effect คือผลกระทบที่เริ่มจากสิ่งเล็กๆจนกลายเป็นสู่การสร้างผลกระทบเรื่องใหญ่เปรียบเสมือน ลูกบอลหิมะที่กลิ้งจากยอดเขา จากลูกบอลเล็กๆ เมื่อเคลื่อนตัวลงมา ทั้งเรื่องความสูงและการรวมตัวของหิมะที่เพิ่มขึ้นทำให้สามารถกลืนทุกสิ่งทุกอย่างให้รวมอยู่ในลูกบอลหิมะลูกเดียวที่มีขนาดมหึมาและสร้างหายนะได้
ในวันนี้ ระบบการศึกษาก็เริ่มเปลี่ยนไป จากรูปแบบการเรียนในห้องเรียนปกติ กลายเป็นเริ่มมีการเรียน Online การรับปริญญา online แท้ที่จริงแล้ว รูปแบบการเรียนออนไลน์ เริ่มเข้ามามีบทบาท ก่อนที่โควิด 19 จะเข้ามาในโลกนี้อีกแต่ด้วยสภาวะบีบคั้นทำให้ ภาค online เริ่มมีบทบาทกันมากขึ้น
พฤติกรรมของคนที่ใฝ่ความรู้ในทุกวันนี้ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การเป็นนักศึกษาในระบบการเรียนปกติอีกต่อไปแล้ว เช่น เราต้องเรียนในระบบปฐมวัย คือ อนุบาล 1-3 ประถมศึกษา มัธยมศึกษา แล้วจึงสามารถต่อไปยัง ระดับ อาชีวศึกษา อุดมศึกษา(มหาวิทยาลัย) โดยที่ผ่านมาระบบการศึกษาเป็นแนวทางในเชิงภาคบังคับการเรียนแบบกลายๆให้ทุกคนที่จะได้รับใบประกาศนียบัตรในระดับการเรียนต่างๆดังที่กล่าวมาข้างต้น
เราต้องเลือกเรียนสายวิทย์คณิตหรือสายศิลป์เพื่อจะไปสอบคัดเลือกเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา ซึ่งทำให้ระยะเวลากว่าสามปีในระดับมัธยมปลาย นักเรียนต้องมีความตั้งใจต่อภาควิชาต่างๆที่อยู่ในสายนั้นๆเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย
คำถามคือ? แล้วนักเรียนเหล่านั้นจะทราบว่าตนเองชอบและถนัดสาขานั้นๆได้อย่างไรเมื่อตนเองเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย ทั้งสาขาบัญชี สาขาวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมด้านต่างๆ การเงิน เป็นต้น
เพราะพวกเขาเหล่านี้จะไม่รู้ว่าตนเองชอบหรือไม่ชอบถนัดหรือไม่ถนัดจนเมื่อเกิดการเข้าไปเรียนรู้และใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งเหล่านั้นโดยพื้นฐานความเป็นจริง
ส่วนในระดับอาชีวศึกษาเองนั้น เน้นแนวทางการปฏิบัติเพื่อการทำงานจริง ทั้งการขาย การเป็นช่างในสาขาต่างๆ รวมไปถึงสาขามากมายที่ล้วนแต่เพื่อการปฏิบัติงานและการสร้างอาชีพแต่สิ่งที่ยังเป็นเรื่องถกเถียงกันคือ คุณภาพด้านวิชาการและหลักทฤษฏีต่างๆ จะเทียบเท่าในระดับ อุดมศึกษาหรือไม่ จากข้อจำกัดดังกล่าว ฝ่ายอาชีวศึกษาจึงมีส่วนการเทียบเท่า โดยสามารถเรียนต่อชั้น ปวส.และสามารถเทียบโอนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยได้
แนวคิดเรื่องการศึกษาที่แตกต่างนอกเหนือจากตัวผมเองยังมีอีกหนึ่งแนวคิดของบุคคลสำคัญระดับโลกอย่าง Elon Musk อีลอน มัสค์ นักประดิษฐ์ วิศวกร ที่ประสบความสำเร็จมากคนนึงของโลก อีลอน ทำตั้งแต่ รถยนต์ ไฮเปอร์ลูพขนส่งใต้ดิน ไปจนจรวดและสถานีอวกาศ
อิลอน มัสค์ ได้ออกแบบสร้างโรงเรียนเพื่อลูกๆ ของเขาขึ้นมาเอง โดยให้เพื่อนๆ ของเขาที่มีอาชีพครูมาทำการสอนในแบบที่เขาต้องการ โรงเรียนของมัสค์มีชื่อว่า Ad Astra ตั้งชื่อเลียนแบบนิยายวิทยาศาสตร์ที่เขาชื่นชอบ เปิดสอนให้กับลูกๆ ของเขา และลูกๆ ของพนักงานบริษัท SpaceX โดยเฉพาะ เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคตและฝึกใช้ชีวิตร่วมกัน
อิลอน มัสค์ ต้องการให้เด็กๆ ได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้ประกอบการตั้งแต่วัยเยาว์ เขาให้โรงเรียนแห่งนี้มีสกุลเงินสมมุติชื่อว่า Astra ให้เด็กๆ ไว้ใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน โดยเด็กๆ จะทุนมาก้อนหนึ่งเท่าๆ กันเพื่อเรียนรู้ในการเริ่มต้นทำธุรกิจจำลอง ตั้งแต่การเปิดบริษัท การทำบัญชี และการทำการค้าขาย เพื่อแลกซื้อขายแลกเปลี่ยน และทำธุรกิจร่วมกันในสังคมจำลองนี้
มัสค์ ได้ออกแบบให้ห้องเรียน Ad Astra มีรถยนต์จำลองของ Tesla ตั้งอยู่กลางห้อง พร้อมกับอุปกรณ์สำหรับการถอดประกอบ และซ่อมแซมต่างๆ โดยเด็กๆ สามารถเรียนรู้การใช้เครื่องมือต่างๆ ได้ตามความสนใจ และหลักสูตรในด้านนี้ที่เขาได้มอบให้เด็กๆ นั้นมีชื่อว่าหลักสูตร A-Frame ที่จะสอนให้เด็กๆ เริ่มเรียนรู้การประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยการเริ่มลงมือทำจากสิ่งประดิษฐ์เล็กๆ น้อยๆ การได้ลงมือทำจริงนี้ เป็นการปลูกฝังให้เด็กๆ รักการประดิษฐ์ และมีความคิดสร้างสรรค์เป็นของตัวเอง
จะเห็นได้ว่า อีลอน มัสค์ เน้นเรื่องความเป็นผู้ประกอบการ วิทยาศาสตร์ การลงทุนและการปฏิบัติด้วยการลงมือทำ มากกว่าเรื่องรู้รอบรู้ทุกเรื่อง
ในปัจจุบันเราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภาคการศึกษาไปบ้างแล้วทั้งจากการแตกแขนงภาคการศึกษาที่เรียกว่า Track โดยแบ่งภาควิชาเรียนเฉพาะในระดับมัธยมปลายเพื่อให้นักเรียนได้คุ้นเคยกับวิชาต่างๆเมื่อต้องการเข้าไปเรียนเฉพาะทางที่มหาวิทยาลัย
ภาคอุดมศึกษาบางแห่งก็เริ่มเปลี่ยนแปลงสร้างภาควิชาที่เรียกว่า Module โดยมีการแบ่งวิชาเรียนเป็นหน่วยกิจย่อยเช่น จากเดิมวิชา การตลาด 3 หน่วยกิต แบ่งเป็น การวิเคราะห์การตลาด 1 หน่วยกิต การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงการแข่งขัน 1 หน่วยกิต การวางกลไกราคาหรือต้นทุนสินค้า 1 หน่วยกิต เพื่อให้นักศึกษาสามารถลงเรียนวิชาการตลาดแต่สามารถเลือกเก็บหน่วยกิตย่อยในวิชานั้นๆ โดยไม่จำเป็นต้องเรียนให้จบทั้งวิชาเพื่อความสะดวกของนักศึกษา
หลังจากนี้เราน่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในภาคการศึกษาอย่างการ Cross Function หรือการการโดดข้ามขององค์ความรู้ต่างๆ เช่นอาจมีการสอนเรื่องความเป็นผู้ประกอบการเข้าไปตั้งแต่ชั้นประถม
เพื่อให้เด็กๆได้รู้ถึงการลงทุนและการสร้างธุรกิจทำให้เขาเติบโตได้อย่างมีคุณภาพและช่วยเหลือประเทศต่อไป