posttoday

Made in China สู่ Made for China จีนทำ จีนใช้ จีนเติบโต

25 มิถุนายน 2564

หลายท่านคงคุ้นเคยกับคำว่า Made in China เพราะเมื่อสมัย 20-30 ปีที่แล้ว จีนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งการผลิตสินค้าราคาถูก เนื่องจากมีค่าจ้างแรงงานที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้จีนเป็นฐานการผลิตที่น่าสนใจในสายตานักลงทุนจากต่างชาติ และนั่นเป็นโอกาสที่ทำให้จีนได้สั่งสมประสบการณ์ เรียนรู้กระบวนการผลิต เพื่อพัฒนาสู่จีนยุคใหม่

โดย กิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ

ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย

ปัจจุบันจีนได้กำหนดยุทธศาสตร์ ‘Made in China 2025’ ที่มุ่งพัฒนาให้จีนเป็นประเทศผู้ผลิตที่แข็งแกร่ง โดยเปลี่ยนรูปแบบจากการผลิตที่เน้นปริมาณสู่การผลิตที่เน้นคุณภาพ ผ่านการให้ความสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์สินค้าของจีนในสายตาผู้บริโภคจากทั่วโลก ทำให้จีนในวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ผ่านมา จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพียงหนึ่งเดียวที่ฟื้นตัวได้ก่อนใคร และด้วยกำลังซื้อมหาศาลภายในประเทศที่พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจทำให้จีนเปลี่ยนผ่านจากยุค Made in China สู่ยุค Made for China ตามนโยบาย “จีนทำ จีนใช้ จีนเติบโต” ส่งผลให้จีนมีตัวเลข GDP ขยายตัว 2.3% ในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำประเทศและความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วนจะช่วยผลักดันให้จีนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีศักยภาพสูงสุดของโลกได้

บลจ.กสิกรไทย เล็งเห็นความน่าสนใจในจีนจึงอยากชวนผู้ลงทุนทุกท่านมาเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวไปด้วยกันกับกองทุน K-CHINA ที่เน้นลงทุนในหุ้นจีนทุกชนิด (All China) โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ New Economy อาทิ Tencent ผู้ผลิตแอปฯ ชื่อดังอย่าง WeChat และ Joox, Alibaba ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ใหญ่ที่สุดในจีน และ Ping An Insurance บริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในจีน โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Funds – China Fund, Class JPM China I (acc) - USD ที่ติดอันดับ Top 10 จากกองทุนหุ้นจีนกว่า 154 กองทุนทั่วโลก (เทียบในกลุ่ม Morningstar Category EAA OE China Equity ณ 31 ธ.ค. 63) และขนาดกองทุน JPMorgan Funds – China Fund เติบโตถึง 208% ภายใน 7 เดือน (ข้อมูลจาก Citywire ณ ธ.ค.63) พร้อมโชว์ฟอร์มทำผลงานได้โดดเด่นติดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar (ข้อมูล ณ ธ.ค.63) นอกจากนี้ กองทุน K-CHINA ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง เพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนระหว่างการลงทุนอีกด้วย

หลายท่านคงมองคำว่า Made in China เปลี่ยนไป เพราะจีนจะไม่ได้หยุดอยู่แค่การพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการเท่านั้น แต่คำนี้จะสะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของจีนในฐานะประเทศมหาอำนาจด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งใหม่ ที่จะทำให้จีนกลายเป็นพญามังกรที่พร้อมผงาดไปทั่วโลกในอนาคต

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"