แก้หนี้อย่าสักแต่หาเสียง

เรื่อง ณ กาฬ เลาหะวิไลย

หลากหลายพรรคการเมือง กำลังหาเสียงกันทั้งเมือง โดยชูนโยบายมากมายขึ้นมา

และหนึ่งในนโยบายที่กำลังบอกประชาชนเพื่อหวังคะแนนนิยมก็คือ แก้ปัญหาหนี้สิน

ทั้งการแก้หนี้ให้คนจนเมือง คนจนชนบท เกษตรกร ครู ข้าราชการ ฯลฯ

แต่เชื่อเถอะ นโยบายเหล่านี้ แก้ปัญหาหนี้ไม่ได้

ที่ทำก็เป็นเพียงการลดหนี้ หรือบรรเทาปัญหาลงมาเท่านั้น

เหมือนเป็นแผล ก็แค่ใส่ยาชา ไม่ได้เย็บแผล รักษาให้หายสนิท

เพราะปัญหาหนี้สินเกิดจากหลากหลายปัจจัย แต่สิ่งที่สำคัญสุดก็คือ ลักษณะวิธีการจับจ่ายใช้สอย

เมื่อตกอยู่ในโลกวัตถุนิยม ความต้องการสินค้า บริการก็เพิ่มพูนเป็นเงาตามตัว

การจะปรับนิสัย ให้ตรงกับรายได้ที่ได้รับ จึงเป็นสิ่งยาก

และยิ่งเฉพาะการเมืองในอดีต ส่งเสริมให้คนเป็นหนี้ ส่งเสริมการยืมเงินอนาคตมาใช้ ก็ยิ่งทำให้หนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น

คนที่ริเริ่มการสร้างหนี้ กับคนที่ต้องมาตามล้างหนี้เป็นคนละคนกัน

ไม่เชื่อลองดูตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง

องค์กรที่ลุกขึ้นมาพยายามแก้ปัญหาหนี้ ก็คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำโครงการคลินิกแก้หนี้

ปัจจุบันขยายเข้าสู่โครงการระยะที่ 2 โดยให้รวมหนี้ของกลุ่มผู้ประกอบการที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ด้วย จากระยะแรกเป็นการแก้หนี้ครอบคลุมเฉพาะหนี้ของธนาคารพาณิชย์เท่านั้น

หนี้สินที่มุ่งแก้ไขเป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีสัดส่วนลูกหนี้กว่า 70%

คาดว่าลูกหนี้กลุ่มใหม่ จะสามารถเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ได้ภายในไตรมาส 2/2562

สาเหตุเนื่องจากต้องรอให้การแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายขอบเขตให้บริษัทบริหารสินทรัพย์สามารถรับจ้างบริหารหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่แบงก์พาณิชย์ มีผลบังคับใช้

จุดเด่นของโครงการคลินิกแก้หนี้ คือการรวมหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายรายแล้วเข้ามาอยู่รวมกัน วางแผนการแก้หนี้ การชำระเงิน รวมถึงให้โอกาสลูกหนี้ผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 10 ปี

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการคลินิกแก้หนี้ มีลูกหนี้ที่สามารถปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จและลงนามสัญญาแล้ว 1,087 ราย

ทั้งหมดคือบทสะท้อนปัญหาหนี้สิน ที่แก้ไขได้ยาก และทำได้ในขอบเขตจำกัด

ลูกหนี้ที่จะเข้ามาในคลินิกแก้หนี้ ต้องมีการลดค่าใช้จ่าย โดยเงินที่เหลือจากการจ่ายหนี้แล้ว ต้องพออยู่ พอกิน

ส่วนถ้าหนี้สินเกินตัว ชนิดที่ผ่อนเท่าไหร่ ก็ไม่มีทางแก้หนี้ได้

ฉะนั้น อยากฟังนโยบายแก้หนี้สินอย่างจริงจังของพรรคการเมือง ประมาณว่า จะปรับนิสัยคนไทยให้อยู่เพียงพอ ใช้จ่ายเพียงพอ ไม่ฟุ้งเฟ้อ สร้างหนี้สิน

พรรคไหนพูดอย่างนี้ก็เชื่อเถอะว่าพูดจริง เชื่อถือได้

ผิดจากนี้ก็ต้องบอกว่า ขี้ฮก หาเสียงไปวันๆ