เฟซบุ๊กกับเลือกตั้งไทย

เรื่อง สลาตัน

ทุกมิติทางการเมืองในตอนนี้ช่างน่าสนใจเริ่มตั้งแต่การรับสมัคร สส. เมื่อช่วงวันที่ 4-8 ก.พ.ที่ผ่านมา สีสันการเมืองชวนตื่นเต้นพรรคการเมืองต่างๆ เรียกเสียงปรบมือจากแฟนคลับที่แห่ให้กำลังใจกันอย่างครึกครื้น ตอนนี้ทุกก้าวของการเมืองไทยประชาชนให้ความสนใจมากขึ้น สังเกตจากพื้นที่ส่วนตัวของประชาชนได้โพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์การเมืองไทยกันแพร่หลาย

ไม่นานมานี้มีข่าวน่าสนใจจากฟากฝั่งของเฟซบุ๊กเอง โดยมีใจความสำคัญซึ่งเฟซบุ๊กเครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่เปิดเผยในห้องข่าว หรือเฟซบุ๊กนิวส์รูมว่ามีมาตรการปกป้องการเลือกตั้งในไทยที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค. 2562

โดยระบุว่าตลอดสองปีที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเรียนรู้จากการเลือกตั้งทุกครั้งและได้เพิ่มศักยภาพในการลบบัญชีเฟซบุ๊กปลอม ลดข่าวลวงขัดขวางผู้ไม่ประสงค์ดี สนับสนุนการเลือกตั้งที่มีข้อมูลเพียงพอและมีส่วนร่วม รวมถึงความโปร่งใสของโฆษณาด้วย ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อคุ้มครองความสมบูรณ์ของการเลือกตั้ง และเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าพวกเขามีเสียงในกระบวนการทางการเมือง

สำหรับมาตรการที่เฟซบุ๊กนำมาใช้กับการเลือกตั้งไทยครั้งนี้และน่าจับตาคือการห้ามลงโฆษณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศไทยที่มาจากต่างประเทศ โดยวางแผนว่าจะเริ่มใช้ตั้งแต่กลางเดือน ก.พ. เป็นต้นไป ประเภทโฆษณาที่อ้างอิงถึงพรรคการเมือง สัญลักษณ์ การหาเสียง นักการเมือง คำขวัญพรรค หรือการรณรงค์ ตลอดไปจนถึงข่มขู่ไม่ให้ไปเลือกตั้ง

เฟซบุ๊กจะใช้ระบบตรวจตราทั้งแบบอัตโนมัติและโดยมนุษย์เพื่อพิจารณาโฆษณาที่ไม่ควรได้ลง นั่นคือความพิเศษของเฟซบุ๊กที่มาข้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งไทย ทุกคนย่อมรู้ดีว่าพื้นที่อย่างเฟซบุ๊กคือช่องทางการหาเสียงหนึ่งที่ได้รับความสนใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วสะดวกสบาย

นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังจะมีทีมงานดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ในการรับมือไม่ให้มีการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และมีแผนจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อประสานงานเรื่องข้อมูลปลอมหรือข่าวปลอมกับศูนย์ใหญ่ที่สหรัฐอีกด้วย ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้การโจมตีคู่แข่งในรูปแบบต่างๆ คลายกังวลลงไปไม่น้อย เพราะก่อนหน้านี้หลายฝ่ายกังวลเรื่องสาดโคลนใส่คู่แข่ง ทำลาย ใส่ร้าย จนขาดจิตสำนึกกัน

ในกรณีข่าวปลอมนั้นเฟซบุ๊กจะมีมาตรการอยู่แล้ว โดยแบ่งแนวทางการปฏิบัติเป็น 3 ระดับ 1.ลบเนื้อหาที่ละเมิดมาตรฐานของชุมชนเฟซบุ๊ก 2.หากเนื้อหานั้นไม่ได้ละเมิดมาตรฐานชุมชน แต่เข้าข่ายว่าเป็นเรื่องอ่อนไหวหรือเป็นเนื้อหาที่ล่อการคลิกหรือคลิกเบต ก็จะลดอัตราการ
เข้าถึง และสุดท้าย 3.ที่ทำอยู่ตอนนี้คือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริบทของเนื้อหาและเจ้าของเนื้อหานั้น

เฟซบุ๊กมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถจัดการคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว เช่น แนวทางการจัดการบัญชีปลอม มีระบบที่สามารถตรวจสอบได้แบบอัตโนมัติ ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) จัดการซึ่งที่ผ่านมาสามารถตรวจสอบบัญชีปลอมได้ถึง 99.6 เปอร์เซ็นต์

ช่วงไตรมาส 2 และ 3 ปี 2561 เฟซบุ๊กได้ดำเนินการจัดการปิดบัญชีปลอมไปแล้วกว่า 1,500 ล้านบัญชี ถือว่าเป็นสังคมออนไลน์ทั่วโลกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตอนนี้ การเลือกตั้งของประเทศไทยจึงน่าจับตาหากฝ่ายใดเล่นเกมสกปรกผ่านโลกเฟซบุ๊ก บัญชีผู้ใช้นั้นจะปลิวหายไปในพริบตา