posttoday

ไปอินเดียกันดีกว่า

17 ธันวาคม 2561

หายหน้าหายตาไปเกือบ 2 สัปดาห์ จากการที่เดินทางไกลไปอินเดีย และที่ไป ไม่ใช่เที่ยวเมืองอินเดียที่ทันสมัย แต่เป็นการเดินทางไปอินเดียแบบดั้งเดิม

โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย

หายหน้าหายตาไปเกือบ 2 สัปดาห์ จากการที่เดินทางไกลไปอินเดียและที่ไป ไม่ใช่เที่ยวเมืองอินเดียที่ทันสมัย แต่เป็นการเดินทางไปอินเดียแบบดั้งเดิมเป็นสภาพบ้านเมืองที่ไม่เจริญ เป็นรัฐที่ยากจนของอินเดีย มีฝุ่นควัน คนยากคนจน ขอทานเต็มไปหมดไม่ว่าจะไปกี่ครั้ง อินเดียแบบดั้งเดิมก็เป็นอย่างนี้

แต่ที่มีคนไทยเดินทางไปอินเดียแบบดั้งเดิม ก็เนื่องจากเป็นสถานที่ตั้งของสังเวชนียสถาน 4 คือ ลุมพินีวัน-สถานที่ประสูติ พุทธคยา-สถานที่ตรัสรู้ สารนาถ-ที่แสดงธรรมครั้งแรก และกุสินารา-สถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า

ครั้งนี้ที่หายตัวก็ได้ไปในโครงการบวชเพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ ที่จัดโดยมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคมผู้ที่อาสามาบวชมี 73 คน และยังมีผู้บวชชีพราหมณ์ ถือศีล 8 อีกประมาณ 50 คน ที่เหลือเป็นคณะญาติโยมที่ร่วมเดินทางไปอนุโมทนาสาธุการอีก เรียกว่าเป็นคณะใหญ่พอดู ทั้งหมดได้เดินทางไปยังสังเวชนียสถาน 4 และสถานที่อื่นๆ ตามรอยบาทพระศาสดา

เป็นเส้นทางที่แตกต่างจากสถานที่ใดๆ ในโลกเพราะหากเดินทางไปท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา หรือญี่ปุ่น สิ่งที่จะได้คือความรื่นเริงบันเทิงใจ ทิวทัศน์ที่สวยงาม อาหารการกินแสนอร่อย โรงแรมที่พักอยู่สบาย มีสถานที่เลือกซื้อสินค้ามากมาย ฯลฯ แต่อินเดียดั้งเดิมไม่มีเช่นนั้นสภาพที่เป็นมีแต่บ้านเรือนที่ยังไม่มีระเบียบ ขยะเต็มถนนหนทาง น้ำเน่า อากาศมีแต่ฝุ่น ไปไหนก็ดมฝุ่นตลอดทาง เป็นบ้านเรือนชนบทที่ยังไม่เจริญ ไม่ต้องพูดถึงคนจน ขอทาน ที่จะต้องรับมือในเกือบทุกสถานที่ บางแห่งก็ขอแบบล้อมหน้า ล้อมหลัง ตื๊อแหลก แต่บางแห่งมีขนาดดึงยื้อยุดมือบ้าง ไปกี่ครั้งกี่หน อินเดียแบบดั้งเดิมก็เป็นอย่างที่ว่า แต่อีกนั่นแหละ นี่คือเสน่ห์แบบประหลาด หาที่ไหนไม่มีในโลก นับตั้งแต่การเดินทางไป ก็ต้องปรับตัวเองมากเอาการ ใครเคยอยู่สบาย นอนสบาย กินของอร่อย ก็คงหวังไม่ได้ แค่มีที่นอนพออุ่น มีไข่เจียวในทุกมื้อถือว่าสวรรค์ ความอดทนที่ต้องมีต่อคนที่มาขอเงินก็ต้องทำไจ

แต่ที่ชอบไปกัน ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็คือ การไปอินเดียแบบดั้งเดิม เป็นเสมือนการไปไหว้พระพุทธเจ้า ไปกราบสถานที่สำคัญซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งในพุทธประวัติ ที่เผยแผ่ศาสนาเมื่อกว่า 2,600 ปีมาแล้ว เป็นการเดินทางที่ลำบาก ไม่ใช่เพื่อความสนุกสนาน แต่สิ่งที่ได้เป็นความอิ่มใจ ปีติใจที่เหนือความสุข มากกว่าความสนุกแบบท่องเที่ยวที่เคยได้รับ

ใครไม่เคยกราบพระแล้วน้ำตาไหล ก็เกิดขึ้นได้ที่อินเดีย ไม่เคยยกมือไหว้ท่วมหัวแสดงสักการะ ก็ทำกันที่อินเดีย อธิบายก็เข้าถึงหัวใจได้ยาก ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองไปสักที แล้วจะรู้ว่าทำไมถึงต้องไปอินเดีย