posttoday

ปลดล็อกกัญชา!?!

07 พฤศจิกายน 2561

กำลังเป็นประเด็นที่สังคมถกเถียงกันอยู่จะ “ปลดหรือไม่ปลดล็อกกัญชา”

โดย...สลาตัน

กำลังเป็นประเด็นที่สังคมถกเถียงกันอยู่จะ “ปลดหรือไม่ปลดล็อกกัญชา” เพราะถ้ามีการปลดล็อกจริงจะต้องไม่สร้างผลร้ายต่อสังคมและต้องเกิดประโยชน์จริงกับประเทศ เป็นโจทย์ใหญ่ให้พิจารณากันอย่างรอบคอบ

ในขณะนี้ “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)” กำลังเดินหน้าติดเครื่องยนต์สุดกำลังหวังผลักดันแก้ไข “ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่....) พ.ศ. .... สู่เป้าหมายการปลดล็อก “กัญชาและกระท่อม”

เนื่องจากตามกฎหมายยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เดิม ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่ายังเป็นพืชสิ่งเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 หากใครเสพหรือครอบครองถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐสามารถดำเนินการจับกุมได้ทันที

แก่นสำคัญของหัวใจการปลดล็อกกัญชาและกระท่อมนั้น ประเด็นอยู่ที่เรื่องของผู้ครอบครองและใช้สารสกัดจากกัญชาและกระท่อมจะไม่มีความผิดอีกต่อไป แต่จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้แค่เฉพาะทางการแพทย์ และนำไปใช้เป็นยารักษาโรค ภายใต้การควบคุมและดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ป้องกันการลักลอบนำไปจำหน่ายและเสพติด

ทุกอย่างในขณะนี้จึงเป็นความหวังของกลุ่ม “สายเขียว” ที่เราต้องยอมรับเลยว่ามีการลักลอบ หลบซ่อนใช้กัญชากันอยู่ ทั้งในรูปแบบการผสมทำอาหารรับประทาน สูบ ครอบคลุมไปถึงการรักษาผู้ป่วยที่ใช้กัญชาและกระท่อมเป็นส่วนผสมในการรักษา

หากประเทศไทยผ่านร่างกฎหมายตัวนี้สำเร็จ ประชาชนจะได้ประโยชน์จากกัญชาและกระท่อมมหาศาลจริงหรือไม่? เนื่องจากมีนักวิชาการ นักกฎหมายบางคนแสดงความกังวลเรื่องการดำเนินการจำหน่าย เกรงว่าจะมีบริษัทยาเข้ามาผูกขาดสัมปทาน แล้วสุดท้ายประชาชนไม่สามารถเข้าถึงประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังกังวลว่าเรื่องราคาอาจมีมูลค่าสูงเกินไป

ตอกย้ำให้สุดลิ่มอีกในประเด็นดังกล่าว ก่อนจะมีการปลดล็อกจากพืชยาเสพติดและให้ประชาชนเข้าถึงได้นั้น “ไม่ใช่ให้เฉพาะพวกบริษัทค้ายาเข้ามา ป้องกันสัมปทาน ผูกขาด ตัดตอน โดยประชาชนเข้าไม่ถึง ซึ่งนั่นมันจะแตกต่างอะไรกับการซื้อมอร์ฟีน ฉะนั้นเรื่องการเข้าถึงต้องป้องกันสิ่งเหล่านี้อย่างเด็ดขาด โดยควบคุมดูแลให้มีประสิทธิภาพไม่ให้เป็นของเถื่อนเหมือนเหล้าเถื่อน” เป็นคำพูดของอาจารย์วิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ที่กล่าวในเวทีเสวนาของ สนช.ที่จัดขึ้น

เมื่อค้นข้อมูลพบว่าตอนนี้ประเทศไหนมีการสูบกัญชามากที่สุด และข้อมูลของ UNODC พบว่าคือประเทศ ไอซ์แลนด์ โดยใน 100 คน จะพบคนสูบกัญชามากถึง 18 คน สำหรับประเทศไทย 100 คน จะพบคนสูบกัญชาเพียง 1.2 คนเท่านั้น

ในประเทศไทยกัญชายังจัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ซึ่งถ้าใครมีครองครองจะถือว่าผิดกฎหมายทันที แล้วบริษัทกัญชาที่ใหญ่สุดในโลกตอนนี้คือบริษัทอะไร? มีมูลค่าเท่าไร?

บริษัท Canopy Growth Corporation เป็นบริษัทสัญชาติแคนาดา ขายส่งกัญชาไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยมีทั้งรูปแบบแห้งและรูปแบบที่ใช้ในทางการแพทย์ โดยมีแบรนด์สินค้าหลักที่โด่งดังบางคนอาจจะเคยเห็นยี่ห้อ Tweed บริษัท Canopy Growth Corporation จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นแคนาดา มูลค่าบริษัท (Market Cap.) ของบริษัทนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ปี 2016 มูลค่า 4,595 ล้านบาท ปี 2017 มูลค่า 22,728 ล้านบาท ปัจจุบันมูลค่า 153,960 ล้านบาท ผ่านไปแค่ 2 ปีมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 33 เท่า

เห็นชัดเจนว่าตลาดกัญชาเชิงพาณิชย์เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างน่าตกใจ ถ้าปลดล็อกกฎหมายได้จริง เชื่อว่าเม็ดเงินมหาศาลไหลเข้าอีกมากโข