posttoday

ศึก 2 ยักษ์ไม่จบง่ายๆ

05 พฤศจิกายน 2561

ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวทำนองว่า สหรัฐและจีนอาจพบกันบนโต๊ะเจรจาเพื่อยุติปัญหาสงครามการค้าที่ปะทุขึ้น

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวทำนองว่า สหรัฐและจีนอาจพบกันบนโต๊ะเจรจาเพื่อยุติปัญหาสงครามการค้าที่ปะทุขึ้น

แต่ความเป็นจริง การยุติข้อพิพาททางการค้าอาจไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

และว่าไปแล้ว การจะเรียกเป็นข้อพิพาททางการค้า หรือสงครามทางการค้า คงไม่ค่อยถูกนัก เพราะจุดเริ่มต้นมาจากการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลุกขึ้นมาถล่มจีนด้วยการขึ้นภาษีการนำเข้าหลายระลอกติดต่อกัน

ผลกระทบเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะความไม่มั่นคงในการค้าโลก ลามไปถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการจัดรูป เคลื่อนตัวเพื่อหาดุลยภาพ หรือจุดสมดุลทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่

แล้วสงครามการค้าที่เกิดขึ้น จะยุติลงได้จริงหรือ?

คำตอบก็คือคงอยู่ที่สหรัฐจะว่าอย่างไร

เพราะนาทีนี้เหมือนกับสหรัฐจะคงความได้เปรียบ ในฐานะที่เป็นคนตัวใหญ่กว่า

นับตั้งแต่เกิดสงครามการค้าขึ้นจีนก็เป็นฝ่ายรับมือตลอด

แม้จีนยังคงมีตัวเลขการเกินดุลการค้ากับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าเศรษฐกิจในภาพรวมแสดงให้เห็นถึงภาวะถดถอยลงมา

ในไตรมาสแรกเศรษฐกิจจีนเติบโต 6.8% ก่อนอ่อนตัวลงมาเหลือ 6.7% ในไตรมาส 2 และเหลือ 6.5% ในไตรมาส 3

ทั้งหมดแสดงให้เห็นผลกระทบจากมาตรการที่สหรัฐเล่นงานจีน ไม่ใช่เฉพาะด้านการส่งออก แต่ส่งผลต่อเนื่องถึงการเคลื่อนย้ายฐานการผลิต ลดทอนความมั่นใจในแง่การลงทุน ฯลฯ

จีนต้องใช้มาตรการทางการคลัง มาตรการทางการเงินเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ อาทิ การที่ปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนตัวลง

ในทางตรงกันข้าม หากไปดูภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ กลับมีความแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ

สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดล่าสุดคือการจ้างงานในเดือน ต.ค. ที่เพิ่มขึ้น 2.5 แสนตำแหน่ง จากที่ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 แสนตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน ค่าจ้างแรงงานก็ปรับเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งหมดคือบรรทัดสุดท้ายของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ที่ต้องการให้เกิดการจ้างงานสูงสุด

และไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยทำไมธนาคารกลางของสหรัฐ หรือเฟด จำเป็นต้องคงมาตรการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐ

ในแง่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สหรัฐจึงมีแต้มต่อ

แน่นอนเมื่อสหรัฐเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่ง กับจีนที่อยู่ในภาวะถอยหลัง ไม่ต้องถามก็รู้ว่าใครมีอำนาจต่อรองมากกว่ากัน

ฉะนั้น ถ้าสหรัฐจะยุติปัญหากับจีน สหรัฐก็จะเรียกราคาที่สูงลิ่ว

แล้วจีนจะยอมได้ไหม และจีนจะจ่ายไหวหรือเปล่า

อย่าลืมเป้าหมายที่สหรัฐต้องการ ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาการขาดดุลการค้ากับจีน แต่ต้องการสกัดไม่ให้จีนก้าวเข้าสู่การเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ทางด้านเศรษฐกิจ

ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก

ดูๆ ไปยังเป็นแค่การโหมโรงก่อนถึงสงครามใหญ่เสียด้วยซ้ำ