ศึก 2 ยักษ์ไม่จบง่ายๆ
ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวทำนองว่า สหรัฐและจีนอาจพบกันบนโต๊ะเจรจาเพื่อยุติปัญหาสงครามการค้าที่ปะทุขึ้น
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวทำนองว่า สหรัฐและจีนอาจพบกันบนโต๊ะเจรจาเพื่อยุติปัญหาสงครามการค้าที่ปะทุขึ้น
แต่ความเป็นจริง การยุติข้อพิพาททางการค้าอาจไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
และว่าไปแล้ว การจะเรียกเป็นข้อพิพาททางการค้า หรือสงครามทางการค้า คงไม่ค่อยถูกนัก เพราะจุดเริ่มต้นมาจากการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลุกขึ้นมาถล่มจีนด้วยการขึ้นภาษีการนำเข้าหลายระลอกติดต่อกัน
ผลกระทบเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะความไม่มั่นคงในการค้าโลก ลามไปถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการจัดรูป เคลื่อนตัวเพื่อหาดุลยภาพ หรือจุดสมดุลทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่
แล้วสงครามการค้าที่เกิดขึ้น จะยุติลงได้จริงหรือ?
คำตอบก็คือคงอยู่ที่สหรัฐจะว่าอย่างไร
เพราะนาทีนี้เหมือนกับสหรัฐจะคงความได้เปรียบ ในฐานะที่เป็นคนตัวใหญ่กว่า
นับตั้งแต่เกิดสงครามการค้าขึ้นจีนก็เป็นฝ่ายรับมือตลอด
แม้จีนยังคงมีตัวเลขการเกินดุลการค้ากับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าเศรษฐกิจในภาพรวมแสดงให้เห็นถึงภาวะถดถอยลงมา
ในไตรมาสแรกเศรษฐกิจจีนเติบโต 6.8% ก่อนอ่อนตัวลงมาเหลือ 6.7% ในไตรมาส 2 และเหลือ 6.5% ในไตรมาส 3
ทั้งหมดแสดงให้เห็นผลกระทบจากมาตรการที่สหรัฐเล่นงานจีน ไม่ใช่เฉพาะด้านการส่งออก แต่ส่งผลต่อเนื่องถึงการเคลื่อนย้ายฐานการผลิต ลดทอนความมั่นใจในแง่การลงทุน ฯลฯ
จีนต้องใช้มาตรการทางการคลัง มาตรการทางการเงินเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ อาทิ การที่ปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนตัวลง
ในทางตรงกันข้าม หากไปดูภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ กลับมีความแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ
สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดล่าสุดคือการจ้างงานในเดือน ต.ค. ที่เพิ่มขึ้น 2.5 แสนตำแหน่ง จากที่ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 แสนตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ค่าจ้างแรงงานก็ปรับเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ทั้งหมดคือบรรทัดสุดท้ายของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ที่ต้องการให้เกิดการจ้างงานสูงสุด
และไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยทำไมธนาคารกลางของสหรัฐ หรือเฟด จำเป็นต้องคงมาตรการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐ
ในแง่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สหรัฐจึงมีแต้มต่อ
แน่นอนเมื่อสหรัฐเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่ง กับจีนที่อยู่ในภาวะถอยหลัง ไม่ต้องถามก็รู้ว่าใครมีอำนาจต่อรองมากกว่ากัน
ฉะนั้น ถ้าสหรัฐจะยุติปัญหากับจีน สหรัฐก็จะเรียกราคาที่สูงลิ่ว
แล้วจีนจะยอมได้ไหม และจีนจะจ่ายไหวหรือเปล่า
อย่าลืมเป้าหมายที่สหรัฐต้องการ ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาการขาดดุลการค้ากับจีน แต่ต้องการสกัดไม่ให้จีนก้าวเข้าสู่การเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ทางด้านเศรษฐกิจ
ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก
ดูๆ ไปยังเป็นแค่การโหมโรงก่อนถึงสงครามใหญ่เสียด้วยซ้ำ