นายใหญ่โกงคนพิการ
โกงเงินคนจนเกิดขึ้นไปแล้ว งวดนี้มาถึงการโกงเงินคนพิการบ้าง
โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย
โกงเงินคนจนเกิดขึ้นไปแล้ว งวดนี้มาถึงการโกงเงินคนพิการบ้าง
งานนี้มีผู้ออกมาร้องเรียนและชี้เป้าด้วยว่าโกงกันตรงไหน
ปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิคนพิการ เป็นผู้ยื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
วิธีการโกงแบ่งเป็น 2 ส่วน
โกงส่วนแรก เป็นฝีมือของสมาคมและมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ
ตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กำหนดให้กิจการที่มีลูกจ้าง 100 คนขึ้นไปต้องจ้างคนพิการ 1 คน
หากไม่ทำ ก็ให้จ่ายเงินสมทบเข้า กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
ในอัตรา 109,500/คน/ปี ตามสัดส่วนที่ต้องจ้างจริง
จากการตรวจสอบพบว่า ตัวเลขคนพิการถูกจ้างงานมี 2.5 หมื่นคน แต่กลับทำงานจริงแค่ 2 หมื่นคน
ส่วนที่เหลืออีก 5,000 คน นอนอยู่กับบ้านเฉยๆ โดยไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิได้รับสวัสดิการการจ้างงานเดือนละ 9,500 บาท
สมาคมคนพิการและมูลนิธิช่วยเหลือคนพิการ จึงกลายเป็นผู้หักหัวคิว โดยจ่ายให้คนพิการที่นอนอยู่บ้านเฉยๆ เพียงเดือนละ 500-3,000 บาท
ส่วนเงินที่เหลือก็หายวับไป
ความเสียหายที่เกิดขึ้นประเมินว่าจะประมาณ 500 ล้านบาท/ปี
โกงส่วนที่ 2 มีหน่วยงานราชการเกี่ยวข้อง
ทั้งหมดสืบเนื่องกันโดยสมาคมและมูลนิธิที่เกี่ยวเนื่อง จะรวบรวมรายชื่อคนพิการจากจังหวัดต่างๆ เพื่อจัดทำโครงการอบรมฝึกอาชีพ
กรมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จะเป็นผู้ดำเนินงานหลังได้รายชื่อ
ช่องทางดังกล่าวทำให้เกิด นายใหญ่ เข้ามาจัดระบบ เช่น ตั้งเบิกค่าวิทยากร 3 แสนบาท จ่ายจริง 3 หมื่นบาท หรือโครงการอบรม 6 เดือน ทำจริงแค่ 3 เดือน
บางจังหวัดข้าราชการระดับผู้อำนวยการสำนักงาน ขอหัวคิวคนพิการหัวละ 9,500/คน/ปี แลกกับการอนุมัติจัดฝึกอบรมทุกโครงการ
ทั้งหมดเปิบแบบขันโตก จกกันคนละคำสองคำระหว่างสมาคมกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นการโกงปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท
กระบวนการทุจริตน่าจะสร้างความเสียหายมากกว่าการโกงเงินคนจน จากตัวเลขคนพิการทั่วประเทศมากกว่า 1.9 ล้านคน เงินกองทุนส่งเสริมคนพิการจึงมีมากถึง 6,000 ล้านบาท/ปี
ที่ผ่านมาเมื่อมีความพยายามจะต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม ก็จะถูกข่มขู่คุกคามในหลายรูปแบบ
คนพิการที่เคยร่วมต่อสู้ถูกอุ้มขึ้นรถตู้ไปเจรจาให้รับเงิน 2 หมื่นบาท แลกกับการเซ็นยินยอมไม่ดำเนินคดี จึงเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปสนับสนุนหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ฟังความแล้ว เรื่องทำนองนี้เห็นทีต้องสอบให้รู้ดำรู้แดง
อะไรมันจะโกงกันได้ขนาดนั้น