รักษาสมบัติแผ่นดิน
ต้องถือว่าค่อยยังชั่วหน่อย เมื่อจู่ๆ มีรายงานการตรวจสอบข้อมูลสิทธิบัตรยา ว่าเกิดรายการยื่นจดสิทธิบัตรการใช้สารในกัญชาสำหรับการรักษาโรคลมบ้าหมู
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ต้องถือว่าค่อยยังชั่วหน่อย เมื่อจู่ๆ มีรายงานการตรวจสอบข้อมูลสิทธิบัตรยา ว่าเกิดรายการยื่นจดสิทธิบัตรการใช้สารในกัญชาสำหรับการรักษาโรคลมบ้าหมู
ผู้ที่ยื่นขอเป็นต่างชาติ โดยยื่นมาตั้งแต่ปี 2553
คำถามเลยดังไปทั่วว่ากัญชาเป็นพืชประจำถิ่นของไทยมานาน และโรคลมชักก็มีวิธีการใช้กัญชาอยู่ในคัมภีร์แพทย์แผนไทยมาก่อนอยู่แล้ว
ที่สำคัญช่วงที่จดสิทธิบัตร กัญชายังอยู่ในบัญชียาเสพติด ไม่สามารถครอบครองได้ แล้วจะขึ้นทะเบียนได้อย่างไร
แต่สุดท้ายกระทรวงพาณิชย์ก็ออกมายืนยันว่ายังไม่มีการเปิดให้จดทะเบียนสิทธิบัตรการใช้กัญชา เพื่อรักษาโรค
จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมทรัพย์สินทางปัญญา พบว่าคำขอดังกล่าวมีผู้ยื่นไว้จริง แต่ยังไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบการประดิษฐ์ (Substantive Examination)
ตามกฎหมายสิทธิบัตร มาตรา 9 บัญญัติไว้ว่า การประดิษฐ์ที่จะได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตร จะต้องไม่เป็นการประดิษฐ์ที่ต้องห้าม เช่น สารสกัดจากพืช วิธีการบำบัดรักษาโรคมนุษย์ หรือสัตว์ เป็นต้น
นอกจากนั้นยังต้องเป็นไปตามเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่กฎหมายระบุ ได้แก่ เป็นการประดิษฐ์ใหม่ เป็นการประดิษฐ์ที่มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น และสามารถประยุกต์ใช้ได้ในทางอุตสาหกรรม
สารสกัดจากกัญชาจึงไม่อาจรับจดทะเบียนสิทธิบัตร โดยการจดสิทธิบัตรแต่ละฉบับยังมีขั้นตอนต้องพิจารณาอีกมาก
ฟังแล้วก็โล่งใจไปอีกเรื่อง
อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ มีพืชสมุนไพรไทยหลายชนิดถูกต่างชาติมาฉกจดสิทธิบัตรไปมากมาย ทั้งที่เป็นพืชที่มีถิ่นฐานในไทย จะไปหาปลูกที่ไหนในโลกเป็นไม่มี
พอรู้ตัวกันอีกที ก็สายเสียแล้ว โดนบริษัทต่างชาติจดสิทธิบัตร รวมถึงบางครั้งเข้ามาปลูกในไทย หรือมาซื้อเป็นวัตถุดิบ ไปผลิตเพื่อการค้า พัฒนาเพิ่มราคามหาศาล
เราก็ได้แต่นั่งมองกันไปมาตาปริบๆ ได้แต่บ่นกันไปบ่นกันมา
เหตุผลที่โดนล้วงตับมีมากมาย นับตั้งแต่ความไม่รู้ ความละเลย รวมถึงหน่วยงานที่ดูแลพืชสมุนไพร กระจัดกระจายออกไป
ทางที่น่าจะทำคือเอาหน่วยงานของรัฐ ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกันดูแลพืชสมุนไพรที่มีค่า โดยแม้จะยังไม่มีการวิจัยที่ชัดเจน แต่ก็น่าจะคัดกรองได้ว่ามีอะไรบ้างที่มีศักยภาพ
จากนั้นก็ต้องทำ 2 แนวทาง เริ่มจากการกระตุ้น ส่งเสริมให้ค้นคว้าวิจัยพืชสมุนไพร โดยหน่วยงานของรัฐ มหาวิทยาลัย หรือกิจการคนไทย ให้สามารถพัฒนาถึงขั้นการจดทะเบียนสิทธิบัตร
ขณะที่อีกด้านที่ต้องทำพร้อมๆ กัน ก็คือป้องกันไม่ให้เกิดการจดทะเบียนสิทธิบัตรเหล่านี้โดยต่างชาติ
เพราะพืชสมุนไพรเหล่านี้ คือ ภูมิปัญญาแผ่นดิน เป็นสมบัติของชาติโดยแท้
ลองคิดอ่านหาทางทำกันบ้างเถอะ วิญญาณปู่ย่าตาทวด จะได้ชื่นใจบ้าง
ว่าลูกหลานมันยังมีปัญญารู้จักรักษาสมบัติของแผ่นดิน