posttoday

รักษาสมบัติแผ่นดิน

08 มิถุนายน 2561

ต้องถือว่าค่อยยังชั่วหน่อย เมื่อจู่ๆ มีรายงานการตรวจสอบข้อมูลสิทธิบัตรยา ว่าเกิดรายการยื่นจดสิทธิบัตรการใช้สารในกัญชาสำหรับการรักษาโรคลมบ้าหมู

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

ต้องถือว่าค่อยยังชั่วหน่อย เมื่อจู่ๆ มีรายงานการตรวจสอบข้อมูลสิทธิบัตรยา ว่าเกิดรายการยื่นจดสิทธิบัตรการใช้สารในกัญชาสำหรับการรักษาโรคลมบ้าหมู

ผู้ที่ยื่นขอเป็นต่างชาติ โดยยื่นมาตั้งแต่ปี 2553 

คำถามเลยดังไปทั่วว่ากัญชาเป็นพืชประจำถิ่นของไทยมานาน  และโรคลมชักก็มีวิธีการใช้กัญชาอยู่ในคัมภีร์แพทย์แผนไทยมาก่อนอยู่แล้ว

ที่สำคัญช่วงที่จดสิทธิบัตร กัญชายังอยู่ในบัญชียาเสพติด ไม่สามารถครอบครองได้ แล้วจะขึ้นทะเบียนได้อย่างไร

แต่สุดท้ายกระทรวงพาณิชย์ก็ออกมายืนยันว่ายังไม่มีการเปิดให้จดทะเบียนสิทธิบัตรการใช้กัญชา เพื่อรักษาโรค

จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมทรัพย์สินทางปัญญา พบว่าคำขอดังกล่าวมีผู้ยื่นไว้จริง แต่ยังไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบการประดิษฐ์ (Substantive Examination) 

ตามกฎหมายสิทธิบัตร มาตรา 9 บัญญัติไว้ว่า การประดิษฐ์ที่จะได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตร จะต้องไม่เป็นการประดิษฐ์ที่ต้องห้าม เช่น สารสกัดจากพืช วิธีการบำบัดรักษาโรคมนุษย์ หรือสัตว์ เป็นต้น

นอกจากนั้นยังต้องเป็นไปตามเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่กฎหมายระบุ ได้แก่ เป็นการประดิษฐ์ใหม่ เป็นการประดิษฐ์ที่มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น และสามารถประยุกต์ใช้ได้ในทางอุตสาหกรรม

สารสกัดจากกัญชาจึงไม่อาจรับจดทะเบียนสิทธิบัตร  โดยการจดสิทธิบัตรแต่ละฉบับยังมีขั้นตอนต้องพิจารณาอีกมาก

ฟังแล้วก็โล่งใจไปอีกเรื่อง

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ มีพืชสมุนไพรไทยหลายชนิดถูกต่างชาติมาฉกจดสิทธิบัตรไปมากมาย ทั้งที่เป็นพืชที่มีถิ่นฐานในไทย จะไปหาปลูกที่ไหนในโลกเป็นไม่มี

พอรู้ตัวกันอีกที ก็สายเสียแล้ว โดนบริษัทต่างชาติจดสิทธิบัตร รวมถึงบางครั้งเข้ามาปลูกในไทย หรือมาซื้อเป็นวัตถุดิบ ไปผลิตเพื่อการค้า พัฒนาเพิ่มราคามหาศาล

เราก็ได้แต่นั่งมองกันไปมาตาปริบๆ ได้แต่บ่นกันไปบ่นกันมา

เหตุผลที่โดนล้วงตับมีมากมาย นับตั้งแต่ความไม่รู้ ความละเลย รวมถึงหน่วยงานที่ดูแลพืชสมุนไพร กระจัดกระจายออกไป 

ทางที่น่าจะทำคือเอาหน่วยงานของรัฐ ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกันดูแลพืชสมุนไพรที่มีค่า  โดยแม้จะยังไม่มีการวิจัยที่ชัดเจน แต่ก็น่าจะคัดกรองได้ว่ามีอะไรบ้างที่มีศักยภาพ

จากนั้นก็ต้องทำ 2 แนวทาง เริ่มจากการกระตุ้น ส่งเสริมให้ค้นคว้าวิจัยพืชสมุนไพร โดยหน่วยงานของรัฐ มหาวิทยาลัย หรือกิจการคนไทย ให้สามารถพัฒนาถึงขั้นการจดทะเบียนสิทธิบัตร

ขณะที่อีกด้านที่ต้องทำพร้อมๆ กัน ก็คือป้องกันไม่ให้เกิดการจดทะเบียนสิทธิบัตรเหล่านี้โดยต่างชาติ 

เพราะพืชสมุนไพรเหล่านี้ คือ ภูมิปัญญาแผ่นดิน เป็นสมบัติของชาติโดยแท้

ลองคิดอ่านหาทางทำกันบ้างเถอะ วิญญาณปู่ย่าตาทวด จะได้ชื่นใจบ้าง

ว่าลูกหลานมันยังมีปัญญารู้จักรักษาสมบัติของแผ่นดิน