posttoday

ลูกหมา

04 มกราคม 2561

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีจอที่ก้าวมาถึงก็นับเป็นช่วงเวลาจับตาทิศทางการเมืองในหลายประเด็น

โดย...ทองพระราม

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีจอที่ก้าวมาถึงก็นับเป็นช่วงเวลาจับตาทิศทางการเมืองในหลายประเด็น ว่าจะมีบทสรุปแบบไหนอย่างไร หลังจากตลอดปีที่ผ่านมา เกิดปัญหาเรียงรายถาโถมรัฐบาลในหลายประเด็น ไล่เรียงตั้งการเมืองเรื่อยไปจนปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนเกษตรกรชาวนาและชาวสวนยาง

เหตุที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จ ทว่า เปิดมาได้เพียงไม่นานท่านประยุทธ์ ก็มาประสบปัญหาไม่ต่างจากก่อน

เหมือน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่ก่อนหน้านี้ต้องเจอกับวิบากปัญหาในเรื่องครอบครองนาฬิกาหรูและแหวนเพชรอันเลอค่า

ซึ่งล่าสุด ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยเข้ายื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีนายกฯ ได้ซื้อลูกสุนัขพันธุ์บางแก้วซึ่งมีมูลค่าตัวละ 3,000 บาท มอบให้กับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ ไว้เลี้ยง

แม้ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์จะออกมายืนยันชัดเจนว่าจะไม่รับสุนัขเพิ่มเติมเพราะมีอยู่แล้วที่บ้านพัก ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย ก็ไม่กังวลต่อประเด็นดังกล่าว เพราะลูกสุนัขนั้นยังมาไม่ถึงมือ

ขาดไม่ได้ท่านนายกฯ ซึ่งลดโทนกระแสดังกล่าวว่า ยังไม่ได้รับสุนัขหลังจากจ่ายสตางค์ไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกระเซ้าเย้าแหย่ หากใครอยากได้ก็มาซื้อต่อไปรับเลี้ยง

อย่างไรก็ดี ประเด็นนี้ทำให้เข็มทิศมุ่งไปสู่ ป.ป.ช.ว่าจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร เพื่อให้เกิดความถูกต้อง เป็นธรรมรอบด้านต่อตัวผู้ถูกกล่าวหา และผู้กล่าวหา

เนื่องจาก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103 และแก้ไขเพิ่มเติมประกอบข้อ 5 (2) ของประกาศกรรมการ ป.ป.ช.

เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ. 2544

เขียนไว้ชัดเจนว่าห้ามเจ้าหน้าที่รัฐรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์ จากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่ควรได้ตามกฎหมายหรือข้อบังคับที่ออกตามกฎหมาย ซึ่งกรรมการ ป.ป.ช.กำหนดไว้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะรับทรัพย์สินมูลค่าเกิน 3,000 บาทไม่ได้

เมื่อเป็นประการฉะนี้ ป.ป.ช.เห็นทีต้องมาตอบคำถามในเรื่องดังกล่าวว่า แท้จริงแล้วผิดหรือถูก กระทำได้หรือไม่อย่างไร เพื่อให้สังคมคลายความสงสัย

เรื่องนี้เกี่ยวกับน้องหมาแต่ไม่ใช่เรื่องหมาๆ ท่ามกลางสังคมไทยซึ่งกำลังถูกเปลี่ยนผ่านไปสู่การปฏิรูปประเทศให้ดีขึ้น หลังจากติดหล่มมานานกว่า 10 ปี

หากมองผิวเผินอาจเป็นประเด็นเล็กน้อย ทว่า เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย ไม่เช่นนั้นอาจสร้างปมความเคลือบแคลงใจ