posttoday

จุดพลุปฏิรูปดีเอสไอ

13 พฤศจิกายน 2560

วันก่อน อาจารย์วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กุนซือฝ่ายกฎหมายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

โดย...สลาตัน

วันก่อน อาจารย์วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กุนซือฝ่ายกฎหมายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่า นายกฯ สั่งให้ปฏิรูปกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ โดยส่งดาบความไว้วางใจไว้กับรองวิษณุ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้ช่วยกันคิดหาวิธีปรับปรุงดีเอสไอให้มีประสิทธิภาพ

เป้าหมายเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ มีเกียรติและศักดิ์ศรี โดยทำเฉพาะคดีพิเศษจริงๆ อาจารย์วิษณุย้ำว่า "ไม่ใช่เอางานขี้หมูราขี้หมาแห้งเอางานของตำรวจมาทำ" ได้ยินเช่นนี้คาดเดาได้ว่าที่ผ่านมารูปแบบทำงานไม่เข้าตารัฐบาล และไม่สมศักดิ์ศรีกับคำว่า "คดีพิเศษ" หลายคดีงานไปทับซ้อนหน้างานตำรวจ เลยสงสัยว่าดีเอสไอจะทำคดีแบบไหน หลักเกณฑ์ที่มีอยู่เป็นเพียงการตราขึ้นมาให้ดูเข้าองค์ประกอบดีเอสไอเท่านั้นหรือเปล่า

โดยเฉพาะช่วงเหตุการณ์ทางการเมืองบนความขัดแย้งสูงช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา เกิดการแบ่งฝักฝ่ายชัดเจน ดีเอสไอคือองค์กรที่สังคมครหาการทำงาน และมีการตั้งคำถามว่าดีเอสไอจะทำคดีเอื้อการเมืองกับ พวกพ้อง หรือทำคดีพิเศษ ตลอดไปจนถึงวางตัวไม่เป็นกลาง ทำแต่ คดีคู่ขัดแย้งอย่างทันใจ

ทุกวันนี้หลายคดียังอยู่ในศาล บางคดียกฟ้อง บางคดีอยู่ระหว่างพิจารณา ทั้งหมดบ่งชี้ว่าคดีที่ทำมาเป็นคดีแห้งๆ ไม่มีคดีเปียกใดๆ หากเทียบกับหน่วยเอฟบีไอ สหรัฐอเมริกา หน่วยสกอตแลนด์ยาร์ด อังกฤษ รูปแบบทำงานแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

รัฐบาลออกมาทุบดีเอสไอ คงนิ่งไม่ได้ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ โฆษกดีเอสไอ จึงงัดผลงานมาสร้างความเข้าใจให้สังคมเห็นว่าที่ผ่านมารักษาผลประโยชน์ชาติไว้สารพัดกว่า 3.5 แสนล้านบาท คิดว่าส่วนนี้สังคมและประชาชนมีวิจารณญาณเลือกตัดสินใจเชื่อหรือไม่

กว่า 14 ปี ดีเอสไอก่อตั้งขึ้นมา ย้อนถามว่ารูปแบบทำงานสมกับความเป็นหน่วยพิเศษอาชีพหรือยัง?? ไม่รวมเครื่องไม้เครื่องเทคโนโลยี อาวุธ ข้อกฎหมาย ที่ช่วยทุ่นแรงให้ทำงานได้สะดวกกว่าตำรวจ

แต่ตลอดทั้งปี 2560 มีการประชุมบอร์ด กคพ.เพื่อลงมติรับคดีอาญาทั่วไปไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษเพียงครั้งเดียว คือเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยบอร์ด กคพ.มีมติรับคดีพิเศษ 4 เรื่อง ได้แก่ คดีฟอกเงินทุจริตกองทุนของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) คดีฟอกเงินจากการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี คดีฉ้อโกงขายเครื่องอัลฟ่า 6 ให้สรรพาวุธทหาร และสหกรณ์เชนลิสซิ่ง ฉ้อโกงประชาชนและหลีกเลี่ยงภาษี

ดูสวนทางกับงบประมาณที่ได้แต่ละปี อย่างปี 2560 ได้รับการจัดสรรกว่า 1,000 ล้านบาทเศษ เพื่อเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนภารกิจของดีเอสไอ

งานนี้ไม่รู้ว่าเสียงหนุนปฏิรูปดีเอสไอจะดันขึ้นฝั่งแค่ไหน แม้แต่ปฏิรูปตำรวจก็ไม่คืบหน้า หากดูกรอบระยะเวลาที่เหลือเพียงอีกไม่กี่เดือนอาจคาดคะเนได้ไม่ยากว่าผลปฏิรูปเป็นอย่างไร ผนวกกับท่าทีรัฐบาลที่ประกาศเลือกตั้งปี 2561 แล้วปฏิรูปดีเอสไอจะแท้งหรือเสร็จในกี่เดือน

ตอนนี้รู้แล้วว่าจะปฏิรูปดีเอสไอ แล้วขั้นตอนกระบวนการทำงานคืออะไรต่อจากนี้ ในเมื่อรัฐบาลจุดพลุขึ้นแล้วต้องชัดเจน...อย่าให้ไฟไหม้ฟาง