ทำอะไรเท่ๆ หน่อยเถอะ
โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าไทย-จีน ที่กำลังจะเดินหน้านั้น สิ่งที่จะตามมาคือการขาดทุนอย่างแน่นอน
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าไทย-จีน ที่กำลังจะเดินหน้านั้น สิ่งที่จะตามมาคือการขาดทุนอย่างแน่นอน
ขาดทุนเริ่มแรกจากการลงทุนก่อสร้างที่ใช้เงินของรัฐบาลไทยในการดำเนินการ จากนั้นถ้าก่อสร้างเสร็จเมื่อใดก็จะมีผลขาดทุนแบบปลายเปิดตามมาอีกจากการเดินรถไฟฟ้า
ต้นทุนเดินรถไฟฟ้าเป็นสิ่งที่แพงมาก และไม่คุุ้มกับเงินค่าโดยสาร โดยจะเป็นการขาดทุนไปเรื่อยๆ หาจุดจบได้ยาก
แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัวคือความเจริญที่เกาะไปกับแนวรถไฟฟ้า โดยเฉพาะตามสถานี ชุมทางต่างๆ ที่รถไฟฟ้าผ่าน
รัฐบาลจึงควรจะใช้ประโยชน์จากการพัฒนาพื้นที่ตามเส้นทางรถไฟฟ้า เพื่อลดการขาดทุนจากโครงการก่อสร้างที่เกิดขึ้น
แนวทางที่ควรจะทำก็คือ การเวนคืนและกันพื้นที่เพิ่มเติมในจุดของสถานีรถไฟฟ้า เพื่อสร้างเป็นศูนย์กลางธุรกิจเป็นแหล่งชุมชนใหม่
เมื่อกันพื้นที่แล้ว รัฐบาลจะลงทุนเอง หรือร่วมทุนกับเอกชนก็ได้ โดยใช้ที่ดินเป็นทุนประเดิม เนื่องจากในอนาคตตามสถานีต่างๆ ที่รถไฟฟ้าผ่านจะมีความเจริญเกิดขึ้นตามมา
รูปแบบการก่อสร้างต้องกำหนดให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจ เป็นแหล่งทำมาค้าขายเป็นหลัก โดยไม่ใช่การก่อสร้างคอนโดที่พักอาศัย โดยอสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นควรกระจายออกไปอยู่ข้างๆ พื้นที่ซึ่งกันเอาไว้
ถ้าเปิดให้สร้างคอนโด ในแง่เศรษฐกิจก็จะได้ประโยชน์เฉพาะเจ้าของโครงการที่จะขายคอนโดได้ในราคาสูง เท่านั้น โดยเงินจะหมุนเวียนในวงจำกัด
ในทางกลับกันถ้าสร้างเป็นแหล่งธุรกิจ ศูนย์กลางการค้า ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ทั้งหมดจะกลายเป็นแหล่งการลงทุน การจ้างงาน ก่อให้เกิดตัวทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค
ลองไปดูได้ในเมืองที่เจริญแล้ว ตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจะไม่มีโครงการคอนโด เดินสามก้าวก็ถึงกันแล้วผุดกันเป็นดอกเห็ด ส่วนใหญ่จะเป็นศูนย์กลางธุรกิจ เป็นเมืองใหม่ที่ทำให้เกิดการค้าขาย การลงทุน การจ้างงาน เกิดธุรกิจเกี่ยวเนื่องตามมา
ก็จะมีแต่เมืองไทยนี่แหละที่กลับข้าง กลับทิศอยู่บ่อยๆ
ดังนั้น การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าไทย-จีน รวมถึงอีกสารพัดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่จะกระจายออกไป จึงควรต้องคิดถึงการกันพื้นที่เป็นของรัฐ เพื่อลดภาระการขาดทุน
หากไม่ทำผลประโยชน์ส่วนนี้ก็จะไปตกอยู่กับพวกลาภปาก ที่ล่วงรู้เส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้า และไปซื้อที่ดินตัดหน้า โดยเฉพาะตามแหล่งที่จะเป็นสถานีขึ้น-ลงรถไฟฟ้านั่นเอง
ไหนๆ ก็มีอำนาจมากมาย ใช้มาตรา 44 กระโดดข้ามกฎหมายหลายฉบับ ดันให้โครงการรถไฟฟ้าไทย-จีนเกิดขึ้น ก็ขอให้ใช้อำนาจที่มีอยู่กันพื้นที่ออกมาเพื่อการพัฒนาในอนาคต
โปรดอย่าลืม เงินที่ลงทุนในสารพัดโครงการรถไฟฟ้าคือเงินภาษีของทุกคน ภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น รวมถึงผลขาดทุน คือหนี้สินที่จะเป็นภาระของประชาชนอีกเช่นกัน
ทำอะไรที่มันเข้าท่าและเท่ๆ หน่อยเถอะ กำลังตั้งตารอดู