posttoday

โทษประหารแค่‘ฃ’กะ‘ฅ’

02 มิถุนายน 2560

อารมณ์ค้างจากวันวาน วันนี้ขอคุยต่อเรื่องการบังคับใช้กฎหมายที่ค่อนข้างเมตตาปราณีต่ออาชญากร

โดย...สันทัด กรณี

อารมณ์ค้างจากวันวาน วันนี้ขอคุยต่อเรื่องการบังคับใช้กฎหมายที่ค่อนข้างเมตตาปราณีต่ออาชญากร ส่งผลให้อาชญากรรมเต็มบ้านเต็มเมือง เพราะไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

ข่าวซึ่งคนให้ความสนใจมากที่สุดตอนนี้คือคดีฆ่าหั่นศพสาวคาราโอเกะ ตามการสอบสวนพบว่า หัวหน้ากลุ่มฆาตกรและเป็นผู้ลงมือโหด ทั้งฆ่า ทั้งหั่นศพ และนำไปฝังซุกซ่อนอำพราง คือ “เปรี้ยว” สาวสายวัย 24 ปี คนในวงการค้ายาเสพติด

นำมาซึ่งเรื่อง หัวร่อไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก พี่สาวของเปรี้ยว นำเรื่องจริงมาพูด กล่อมเปรี้ยวให้ยอมเดินทางไปมอบตัว

“คำว่าโทษประหารน่ะ มันไม่มีหรอกเปรี้ยว ใครจะแชร์โซเชียลอะไรก็ช่าง เขาไม่สามารถเอามามีผลในการปิดสำนวนของเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีอยู่ ฟังพี่ตรงนี้แล้วเข้าสู่กระบวนการ”

ครับ... “คำว่าโทษประหารน่ะ มันไม่มีหรอกเปรี้ยว”ตึ่งโป๊ะมาก...ตบหน้ากระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างจัง

โชคดีผมไม่ต้องไปค้นหาว่า โทษประหารชีวิตที่เขียนไว้ในกฎหมายนั้น เคยใช้กันล่าสุดเมื่อไหร่ มีการประหารชีวิตกันจริงๆ ครั้งสุดท้ายปีไหน เพราะท่านรองนายกรัฐมนตรี อาจารย์วิษณุ เครืองาม กรุณาออกมาอธิบายขยายความต่อสาธารณะ

“โทษประหารชีวิตมีอยู่ในกฎหมาย แต่เราได้รับปากในที่ประชุมกรรมการสิทธิมนุษยชนที่กรุงเจนีวา ที่ขอร้องให้เรายกเลิก เรายังยกเลิกไม่ได้แต่ความผิดใหม่จะไม่กำหนดโทษประหารชีวิต และจะทยอยเปลี่ยนจากโทษที่บังคับให้ประหารชีวิตอย่างเดียวให้มีทางเลือกจำคุกตลอดชีวิตได้ และ 8-9 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีการบังคับใช้โทษประหารชีวิตจริง และตามมาตรฐานของสหประชาชาติ และกรรมการสิทธิมนุษยชนโลกถือว่าในประเทศที่มีโทษประหารชีวิต แต่ไม่มีการบังคับประหารใครจริงในระยะ 10 ปี ให้ถือว่าไม่มีโทษประหารชีวิต”

ครับ... เมื่อไปตรวจค้นข้อมูลก็ได้มาว่า การประหารชีวิตครั้งล่าสุดเกิดเมื่อดือน ส.ค. 2552 ด้วยวิธีการฉีดยาประหาร 2 นักโทษคดียาเสพติด

สรุปคือ 8 ปี ไม่เคยมีการประหารชีวิตจริง!

งั้นสิ ถึงได้เห็นโจรโหดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ฆ่าเหยื่อด้วยความโหดเหี้ยม แม้ถูกตัดสินประหารชีวิต แต่คิดคุกไม่นานก็ออกมาก่อกรรมทำเข็ญชาวบ้านต่อ

เช่น คดีฆาตกรรมผู้ว่าฯ ยโสธร เพราะบ้านเรานั้นเมตตาปราณีต่อคนเหล่านี้ด้วยกระบวนการลดโทษสารพัดช่องทาง

ตามคำบอกอธิบายของอาจารย์วิษณุ แปลว่า อีก 2 ปี หากไม่มีนักโทษคนไหนถูกประหารชีวิตก็จะครบ 10 ปี การประหารชีวิตก็จะหมดไปจากประเทศไทยในทางปฏิบัติ แม้ว่าบทบัญญัติของกฎหมายจะมีอยู่ก็ตาม

ครับ คงเป็นที่ถูกอกถูกใจพวกโลกสวย ออกมาเดินรอดสายรุ้งในทุ่งลาเวนเดอร์ บรรดานักสิทธิมนุษยชนได้ยิ้มชื่นบาน เอาไว้พูดโชว์ต่างชาติถึงความเป็นอารยะของไทย

คนไทยส่วนใหญ่จะถูกใจหรือไม่? รบกวนช่วยกันส่งเสียงดังๆ

ครับ โทษประหาร มันก็เหมือน “ฅ” กับ “ฃ”ตัวอักษรที่มีไว้ให้ท่อง รู้ว่ามี แต่ไม่ใช้