posttoday

เงินผัน 4.0

16 กุมภาพันธ์ 2560

นโยบายสำคัญของรัฐบาลที่น่าจับตาก็คืองบพัฒนาจังหวัด ที่จะให้แต่ละจังหวัดจัดทำโครงการต่างๆ และใช้งบประมาณโดยตรง

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

นโยบายสำคัญของรัฐบาลที่น่าจับตาก็คืองบพัฒนาจังหวัด ที่จะให้แต่ละจังหวัดจัดทำโครงการต่างๆ และใช้งบประมาณโดยตรง

มองดูแล้วงานนี้อาจเรียกว่าเป็นเงินผัน 4.0

เงินผัน 1.0 เกิดขึ้นสมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อมี 2518 

เป้าหมายคือการผันเงินจากส่วนกลางไปให้ท้องถิ่นใช้จ่ายตามโครงการที่กำหนดขึ้นเอง เพื่อสร้างรายได้และทำงานหลังเก็บเกี่ยวพืชผลแล้ว และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากระดับฐานรากของประเทศ

ถัดมาเงินผัน 2.0 น่าจะเกิดช่วงหลังวิกฤตเศรษฐกิจ ยุครัฐบาลชวน หลีกภัย ในช่วงปี 2542 ที่มีการกู้เงินมากระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้โครงการมิยาซาวา มูลค่า 5.3 หมื่นล้านบาท

เงื่อนไขสำคัญของเงินกู้ ก็คือต้องเร่งการใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจฟุบ เป็นการผันเงินจากส่วนกลางให้กระจายไปทั่วทั้งการจ้างงานในเมืองและชนบท 

สารพัดโครงการที่ใช้เงินกู้มิยาซาวาจึงเกิดขึ้น อาทิ การจ้างงาน การลงทุน หรือหมู่บ้านทั่วประเทศจะได้เงินแห่งละ 1 แสนบาท องค์การบริหารส่วนตำบล 1.2 แสนบาท หรือโครงการแหล่งน้ำที่รวมๆ กันเป็นเงิน 1 หมื่นล้านบาท ฯลฯ

ส่วนเงินผัน 3.0 นั่นต้องโครงการเอสเอ็มแอล รัฐบาลไทยรักไทย ที่เป็นโครงการเหนือเมฆ คิดได้ตอนบินอยู่บนท้องฟ้า โดยผลักดันเมื่อปี 2546 ใช้งบประมาณปีละ 2 หมื่นล้านบาท

หลักเกณฑ์จะจัดสรรงบประมาณ ให้หมู่บ้านหรือชุมชนตามขนาดประชากร

ชุมชนขนาดเล็ก (Small) มีประชากรไม่เกิน 500 คน ได้ไป 2 แสนบาท ขนาดกลาง (Medium) มีประชากรตั้งแต่ 500 คน แต่ไม่เกิน 1,000 คน ได้  2.5 แสนบาท และขนาดใหญ่ (Large) มีประชากร 1,000 คนขึ้นไป ได้รับ 3 แสนบาท

แล้วก็มาถึงเงินผัน 4.0 ที่มีการตั้งงบพัฒนาจังหวัดในปีงบประมาณ 2560 ไว้ 2 หมื่นล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2561 เป็น 4 หมื่นล้านบาท

เป้าหมายเงินผัน 4.0 ก็คือจะให้จังหวัดแต่ละแห่งเป็นผู้ผลักดันโครงการ สร้างเศรษฐกิจของตัวเองขึ้น ภายใต้การจัดสรรงบประมาณที่กระจายลงไป

ขณะเดียวกัน ในแต่ละจังหวัดก็จะรวมตัวกันเป็นกลุ่มจังหวัด หรือคลัสเตอร์ ที่จะมีการเชื่อมโยงเข้าหากัน โดยเฉพาะในแง่เศรษฐกิจ

เงินผัน 4.0 ยังมีลักษณะพิเศษ ตรงที่จะมีการดึงเอาภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการเป็นพี่เลี้ยงให้กับกลุ่มจังหวัดต่างๆ รวมถึงกำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในบางกลุ่มจังหวัดที่มีความพร้อม

สรุปความง่ายๆ เงินผัน 4.0 จึงมีเรื่องราว พิธีกรรมที่มากขึ้น โดยผลสรุปจะผลิดอกออกผลอย่างไร แตกต่าง หรือเหมือนกับเงินผันแต่ละเวอร์ชั่นหรือไม่ คงต้องใช้เวลาอีกช่วงใหญ่ในการประเมิน

แต่เท่าที่ดูเงินผัน 4.0 กับเงินผัน 3.0 เหมือนมวยที่มาถูกคู่กันอย่างไรก็ไม่รู้

เรียกว่าเริ่มต้นได้พอฟัดพอเหวี่ยง สูสี ชนิดที่ต้องดูจนครบยก

ข่าวล่าสุด

BDI ชี้ SMEs ไทยต้องใช้ Big Data - AI เดินหน้า The UP ปั้นธุรกิจฐานข้อมูลสู่ Data Economy