posttoday

คืนความสุขธุรกิจสุขภาพ

17 มกราคม 2560

อำนาจพิเศษ หรืออำนาจที่มาจากการปฏิวัติ ถ้าใช้ให้ถูกที่ถูกทาง ก็สร้างประโยชน์มหาศาล อย่างล่าสุดคือการที่ ลุงตู่ คืนความสุข แจกรอยยิ้มให้บรรดาธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยใช้อำนาจ ม.44 ทะลวงจุดตีบตันให้เป็นที่เรียบร้อย

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

อำนาจพิเศษ หรืออำนาจที่มาจากการปฏิวัติ ถ้าใช้ให้ถูกที่ถูกทาง ก็สร้างประโยชน์มหาศาล

อย่างล่าสุดคือการที่ ลุงตู่ คืนความสุข แจกรอยยิ้มให้บรรดาธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยใช้อำนาจ ม.44 ทะลวงจุดตีบตันให้เป็นที่เรียบร้อย

ที่ผ่านมาการทำธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยากเย็นเข็ญใจ ยิ่งเฉพาะถ้าเป็นบรรดาธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก ยิ่งหืดจับ ด้วยเหตุที่จะต้องมีการขอใบอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

กระบวนการพิจารณาอนุญาต เริ่มตั้งแต่การยื่นให้พิจารณาคําขอ การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร การประเมินเอกสารทางวิชาการ การตรวจวิเคราะห์ การตรวจสถานประกอบการ  การตรวจสอบ เพื่อออกหนังสือรับรองใบอนุญาต ใบรับจดแจ้ง ใบจดทะเบียน ใบแจ้งรายละเอียด ใบรับแจ้งรายละเอียด ใบสําคัญการขึ้นทะเบียน

เฉพาะแค่อ่านก็หอบแล้ว ยังไม่ทันยื่นขอก็พานจะเป็นลม

ธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่ต้องเข้าคิวรอใบอนุญาตมีทั้ง ยา อาหาร เครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง ฯลฯ บานตะเกียง

การขอใบอนุญาตจาก อย. จึงเป็นจุดสะดุดตอ บางคำขอที่เกี่ยวเนื่องกับยา โน่นค้างเติ่งหลายปีก็มี

สาเหตุหลักแน่นอนว่า มาจากปัญหาบุคลากรที่มีน้อย สวนทางกับปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น

ภาคธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาโตพรวดพราด ไม่ว่าจะเป็น ยา เวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหาร ฯลฯ แต่ละปีมีใบอนุญาตคำขอที่ยื่นให้พิจารณาถึง 7-8 หมื่นคำขอ เทียบกับจำนวนบุคลากรของ อย. มีแค่ 600 คน และเป็นนักวิชาการที่พิจารณาออกใบอนุญาตได้ไม่ถึงครึ่ง

คำขอที่ยื่นเข้า อย.จึงค้างเติ่งเป็นหมื่นๆ

ปรากฏว่า ลุงตู่ งัด ม.44 ออกประกาศฟันฉับ ทะลวงจุดหยิม-ต๊ก ให้เมื่อปลายปีก่อน

ประเด็นสำคัญก็คือ การออกคำสั่งเปิดให้หน่วยงานอื่นมาพิจารณาใบอนุญาตได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานของรัฐอื่นๆ ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ

ผู้ที่จะมาออกใบอนุญาต ต้องได้รับการขึ้นบัญชีจาก อย. โดยขั้นตอนต่อไปก็คือ จะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข การขึ้นทะเบียนผู้ที่จะทำหน้าที่เหล่านี้ รวมถึงการคิดค่าใบอนุญาต อัตราค่าใช้จ่ายในการยื่นคำขอ ฯลฯ

ค่าขึ้นทะเบียนและค่าใช้จ่ายในการยื่นคำขอ จะกันออกมาให้เป็นเงินของ อย. ไม่ต้องนําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน เพื่อเอาไปปรับปรุงงาน รวมถึงดูแลงานอื่นๆ อาทิ การคุ้มครองผู้บริโภค

เท่าที่มีการประเมิน หน่วยงานแรกๆ ที่จะทำหน้าที่แทน อย. ก็คือบรรดาสถาบันการศึกษาทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ที่มีความเชี่ยวชาญแต่ละด้านอยู่แล้ว

แค่เงื้อปากกาใช้ ม.44 แกร็กเดียว ผลที่ได้ก็มหาศาล กระจายทั้งภาคธุรกิจ สถาบันการศึกษา ภาคราชการ

ทำอย่างนี้ ก็ต้องขออนุโมทนาสาธุ

ด้วยกุศลอันประเสริฐ ขอให้ลุงตู่หน้าเด้งดึ๋ง ผ่องใสไปนานๆ

ข่าวล่าสุด

ทร.แจงไม่ได้ข่มขู่กัมพูชา ย้ำใช้กลไกทวิภาคีปมเขื่อนกันคลื่น