ไม่ดีหรือไง

โดย...ขำ เคืองใจ [email protected]

เรียกสติกลับมาแล้วทำความเข้าใจเบื้องต้นกันก่อนดีมั้ยครับ เพื่อทำให้เราได้มีหลักคิดพิจารณาอย่างมีเหตุมีผล ไม่หลงกลเกม แบบว่าโหมกระพือไปตามกลุ่มปลุกปั่นสร้างความสับสนให้ชาติบ้านเมือง 

เกริ่นแบบนี้เป็นผลจากกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และคณะ เดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-2 ต.ค.ที่มลรัฐฮาวาย

โดยสื่อเลือกข้างซึ่งทราบกันดีในหมู่สื่อมวลชน พยายามเค้นให้ประเด็นตรงที่ “มีการว่าจ้างเครื่องบินเหมาลำจากการบินไทยถึง 20.9 ล้านบาท” ในที่สุดสื่อบางแห่งติดกับนำไปขยายความต่อ

กระทั่งวานนี้ ฝ่ายถูกพาดพิง หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ออกมาแถลงทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย ส่วนใครพยายามทำเป็นไม่เข้าใจอีกก็จนปัญญาอธิบายแล้วครับ

เอ้า! ขอย้ำอีกครั้ง “งบประมาณดังกล่าว เป็นราคากลางที่บริษัทการบินไทย เสนอมายังกระทรวงกลาโหม โดยราคาดังกล่าวไม่ใช่งบประมาณที่ใช้จริง” 

หลังจากเสร็จสิ้นการเดินทางต้องมาตรวจสอบอีกครั้งใช้จ่ายจริงในแต่ละรายการเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่กันแน่ น้อยกว่า 20 ล้านบาท หรือไม่

อย่างไรก็ดี บรรดาถ้อยแถลงแต่ละท่าน เห็นจะเป็น พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เข้าตากรรมการกว่าใครเพื่อน

เพราะโฆษกกลาโหมตบท้ายคำแถลงไว้ว่า “เป็นเรื่องดีที่สังคมปัจจุบันมีความตื่นตัว เรียนรู้และมีส่วนร่วมในการทำงานของภาครัฐมากขึ้น”

ขยายความจากข้อความข้างต้น น่ามาจากกรณีสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เผยแพร่การคำนวณราคากลางค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการร่วมประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ชนิดละเอียดยิบลงเว็บไซต์ราชการ

รายละเอียดตรงนี้ล่ะครับ ทำให้สื่อเลือกข้างนำไปเสนอจนผู้คนไม่ทันศึกษารายละเอียด จะเป็นเรื่องขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างก็ดี วาระความจำเป็นต้องเดินทางไปเพื่อประโยชน์ประเทศชาติก็ดี หลับหูหลับตาบรรเลงคีย์บอร์ดทันที 

บ้างโพสต์ข้อความว่า “รัฐบาลผลาญงบ” บ้างฟันธงโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง เมื่อเห็นรายการอาหารสนนราคาหกแสนบาท “สงสัยจะเป็นค่าไวน์ราคาแพงกับเมนูอาหารไข่ปลาคาเวียร์”

ก่อนเคลิ้มเรื่องไม่เป็นเรื่องไปกว่านี้ วกมาที่ประเด็นการเปิดเผยรายละเอียดตรงนี้ดีกว่าย่อมสะท้อนถึงการกำหนดบรรทัดฐานใหม่ด้านข้อมูลข่าวสารราชการ

ไม่บ่อยนักที่จะมีการนำรายการค่าใช้จ่ายเผยแพร่เว็บไซต์ราชการ ครั้นปุจฉาแบบอัปมงคลกันอีกว่า ต้องมีข้าราชการวางยารัฐบาลปล่อยข้อมูลออกมา นี่ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้

ข้อเท็จจริง ก็คือ รัฐบาล คสช.ต้องการสร้างความโปร่งใสทางด้านข้อมูลข่าวสาร ให้ประชาชนได้ร่วมรับรู้ ติดตามตรวจสอบได้... นี่สิเป็นเรื่องน่ายินดีด้วยซ้ำ