จากคมช.ถึงคสช.
ช่วงเวลานี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ประเทศกำลังอลหม่านอยู่ไม่น้อย
โดย...หงส์แดง [email protected]
ช่วงเวลานี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ประเทศกำลังอลหม่านอยู่ไม่น้อย เพราะ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในเวลานั้นนำกำลังทหารรัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร หมาดๆ
คืนวันที่ 19 ก.ย. 2549 นายกฯ ทักษิณ ก็พยายามจะฮึดสู้อยู่พักหนึ่งด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ก็สายเกินไป ต้องตกเก้าอี้ไปโดยปริยาย
การรัฐประหารครั้งนั้นในเชิงรูปแบบไม่ได้ต่างจากในอดีต เพราะเมื่อทหารสามารถเข้ายึดสถานที่สำคัญ ทั้งทำเนียบรัฐบาล สถานีโทรทัศน์เอาไว้ ชัยชนะก็อยู่ในกำมือ
แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ กระแสตอบรับจากประชาชน เพราะวันรุ่งขึ้นวันที่ 20 ก.ย. 2549 มีประชาชนมามอบดอกไม้ให้ทหาร สะท้อนให้เห็นมีประชาชนจำนวนหนึ่งยินดีกับการรัฐประหารอยู่ไม่น้อย
ลานพระบรมรูปทรงม้ากลายเป็นลานจอดรถถังไปโดยปริยาย ปกติประชาชนจะได้ใกล้ชิดอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารในวันเด็กแห่งชาติ แต่เมื่อรถถังถูกนำมาใช้ปฏิบัติการพิเศษ ประชาชน ลูกเด็กเล็กแดงเลยได้อานิสงส์ไปด้วย
เมื่ออำนาจตกอยู่ในมือของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แบบเบ็ดเสร็จจึงนำมาสู่การบริหารจัดการบ้านเมืองครั้งใหญ่ รวมไปถึงการปราบปรามการทุจริตผ่านกลไกคณะกรรมการตรวจสอบการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นำมา ซึ่งการยึดทรัพย์ครอบครัวชินวัตร 4.6 หมื่นล้านบาท
อำนาจ คมช.สิ้นสุดลงภายหลังการมีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 และการเลือกตั้ง สส.ในปีเดียวกัน หลายคนรวมทั้งผมคงคิดว่าการรัฐประหารปี 2549 คงเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ
- รัฐธรรมนูญ 2550 ได้ช่วยแก้ไขปัญหาทางกฎหมายในอดีต และวางหลักการปราบปรามการทุจริตที่เข้มงวด
- นักการเมืองน่าจะได้บทเรียน และคงไม่ดำเนินการซ้ำรอย
- ปัจจุบันเป็นโลกสมัยใหม่แล้ว การรัฐประหารไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก
- ฯลฯ
แต่ความเชื่อของผมก็ต้องสิ้นสุดลง เมื่อเกิดการรัฐประหารในเดือน พ.ค. 2557
ใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารครั้งล่าสุดก็ขึ้นอยู่กับว่าใครยืนอยู่ในมุมไหน
เช่น ถ้าอยู่ในมุมนักประชาธิปไตยก็คงจะไม่เห็นด้วย เพราะไม่ใช่วิถีทางของประชาธิปไตย หรือถ้ามองในมุมของประชาชนทั่วไปก็อาจเห็นด้วย เพราะบ้านเมืองจะได้สงบสักที หลังจากมีม็อบหลายสีลุกขึ้นมาสลับปิดเมืองกันหลายครั้ง
มาถึงเวลานี้คงไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าจะมานั่งเถียงกันว่าการรัฐประหารเสียของหรือไม่ หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะสืบทอดอำนาจหรือไม่
เถียงกันไปก็ป่วยการ ถึงอย่างไรประเทศไทยต้องมีการเลือกตั้งอยู่ดี คสช.ตระหนักในข้อนี้ ไม่มีทางเลยที่ประเทศโลกเสรีจะยอมรับสถานะของประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตยเสี้ยวเดียวแบบนี้
สังคมควรเอาเวลามานั่งไตร่ตรองกันว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองโตพอที่จะมีภูมิคุ้มกันและยืนบนลำแข้งของตัวเอง โดยไม่ต้องมีทหารเข้ามาจัดการอีก


