posttoday

รายได้ใบสั่ง

19 กันยายน 2559

นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาจริงจะแก้วิกฤตจราจรในเมืองกรุงให้ได้ ไม่รู้จะสำเร็จแค่ไหน สมัยทักษิณ ชินวัตร

โดย...พะนะท่าน  [email protected]

นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาจริงจะแก้วิกฤตจราจรในเมืองกรุงให้ได้ ไม่รู้จะสำเร็จแค่ไหน สมัยทักษิณ ชินวัตร เอาใจคนกรุงประกาศแก้ภายใน 6 เดือน แต่อยู่มา 6 ปี สาหัสกว่าเดิม

วิกฤตจราจรบ้านเราไม่รู้จะเริ่มจากสาเหตุไหน เพราะมีร้อยแปดพันประการ

ถนนในกรุงเทพฯ มันมีจำกัด สร้างใหม่ก็ไม่พอกับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นมากมายในแต่ละปี ยังไงมันก็ต้องติดวันยังค่ำ

วินัยจราจรไม่ต้องพูดถึง จะกวดขันกันมากน้อยแค่ไหน แต่คนเห็นแก่ตัวก็ยังมี ตลาดสดอีก ตัวดีเลย ไหนว่าจะจัดระเบียบ ก็ไม่ทำกันจริงจัง เจ้าหน้าที่รัฐมีประโยชน์เลยปล่อยให้จอดส่งของรถกินผิวถนนไป 1-2 เลน มันก็ลามกระทบไปสี่แยกใกล้เคียง

บางจุดตำรวจก็ไม่ลงมาทำหน้าที่อำนวยความสะดวก เหมือนอย่างที่บิ๊กตำรวจเองก็บ่น แต่ก็แก้ปัญหาลูกน้องตัวเองไม่ได้ซะที

ยากครับ ที่จะแก้ปัญหาจราจรสำเร็จ ต่อให้มีรถไฟฟ้าอีก 20 สาย ในเมืองก็เถอะ คนก็ยังนั่งทั้งรถไฟฟ้า และใช้รถส่วนบุคคลไปพร้อมกัน ถ้าไม่จำกัดจำนวนรถยนต์ในเมืองด้วยวิธีการใดก็ตาม

แต่ที่คันหัวใจมากก็คำพูด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่ว่า ต่อไปนี้ใครไม่เสียค่าปรับ ก็จะไม่ได้ต่อทะเบียนรถ หนำซ้ำ อาจออกกฎหมายให้จ่ายค่าปรับ 2-3 เท่า ถ้าเบี้ยวไม่จ่าย

ดีครับ...แต่ต้องเอาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และมีระบบตรวจสอบการออกใบสั่งด้วยเช่นกัน เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ขับขี่ 

ใน กทม.มีข้อมูลว่า ตำรวจแจกใบสั่งปีละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านใบ เพราะรถมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ปี 2558 ก็มากถึง 8.76 ล้านคัน จากทั้งหมด 36.15 ล้านคัน เมื่อรถเยอะ โอกาสทำผิดกฎจราจรก็มีมาก อีกทั้งยังมีกล้องวงจรปิดตามสี่แยกคอยสอดส่อง

ทุกวันนี้ ผู้ขับขี่โดนใบสั่งกันถ้วนหน้า ไม่ว่าขับรถผิดกฎ อีกส่วนก็ถูกตำรวจเรียกหาประโยชน์ยัดใบสั่งทั้งที่ผู้ขับขี่เชื่อว่าตนเองไม่ผิด 

โดยเฉพาะข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนด ใบสั่งส่งมาที่บ้าน ระบุขับ 150-160 กม./ชม. ทั้งที่เจ้าตัวไม่เคยเหยียบตีนผีขนาดนั้นแล้วจะไปตรวจสอบได้อย่างไร ตำรวจส่งภาพถ่ายจากกล้องแค่นั้น แล้วต้องไปจ่ายค่าปรับ 500 บาทอย่างนั้นหรือ

บางพื้นที่แถบปริมณฑล มีข้อร้องเรียนมากว่า ผู้ขับขี่ถูกข้อหาผิดกฎชนิดโดนจับละเอียด ถ้าเลยเส้นจอดไฟแดงไปแค่ 5 ซม. ไม่นานใบสั่งส่งถึงบ้าน

ว่ากันว่า ตำรวจหวังทำยอดเก็บค่าปรับให้สูง เลยจับผิดหยุมหยิม แล้วไปหารส่วนแบ่งกัน

รายได้จากค่าปรับ กฎหมายกำหนดว่า ส่วนแรกต้องนำมาแบ่งให้ท้องถิ่น (กรุงเทพมหานคร) 50% ส่วนที่สอง นำเงินส่วนที่เหลือมาหัก 5% ส่งเข้ารายได้แผ่นดิน ที่เหลือนำมาจัดสรรเป็นรางวัลให้กับผู้จับกุมและผู้สนับสนุนงานจราจร

ยังไม่มีการเปิดเผยว่า เงินค่าปรับแต่ละปีมีมากเท่าไร แต่คาดการณ์ว่าเกือบหลักพันล้านบาทเทียบจากในปี 2557-2558 มียอดพิมพ์ใบสั่งต่อปีอยู่ที่ 2 ล้านฉบับ ถ้าคิดว่า 1 ใบสั่ง จะได้ค่าปรับ 500 บาท

เข้มค่าปรับเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องปฏิรูปตำรวจ ไม่ให้เงินตกหล่นรั่วไหลด้วย