posttoday

ความดีของสรยุทธ

02 มีนาคม 2559

เสียงตั้งคำถามที่ดังระงมอยู่ตอนนี้ ก็คือ ช่อง 3 เหลือทางเลือกอะไรบ้าง หลังจากสาธารณชนทวงถามความรับผิดชอบจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดัง

โดย...คุณบ๊งเบ๊ง [email protected]

เสียงตั้งคำถามที่ดังระงมอยู่ตอนนี้ ก็คือ ช่อง 3 เหลือทางเลือกอะไรบ้าง หลังจากสาธารณชนทวงถามความรับผิดชอบจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดัง ซึ่งเพิ่งถูกศาลตัดสินจำคุกไปมากกว่า 13 ปี

แน่นอน คดียังไม่สิ้นสุด และเมื่อสรยุทธยังมีโอกาสต่อสู้คดีต่อไป ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะเรียกสรยุทธว่าเป็นอาชญากร หรือเป็นคนโกงชาติ แบบที่ “คนดี” จำนวนมากรู้สึกสาแก่ใจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ทีวีดิจิทัลที่มีเรตติ้งข่าวอันดับ 1 จะตัดสินใจให้สรยุทธหลบจากหน้าจอ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความผูกพันของสรยุทธและช่อง ไม่ใช่แค่เรื่องนายจ้าง-ลูกจ้าง แต่คือการเป็น “ตัวทำเงิน” ให้กับช่องมานานนับสิบปี

หากวัดกันจริงๆ สรยุทธอาจทำเงินให้กับช่องนับพันล้าน ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมมูลค่าแบรนด์ “ครอบครัวข่าว” ที่ต่อยอดได้อีกมหาศาล

อย่างน้อยๆ “เรื่องเล่าเช้านี้” ก็ได้ทำให้รายการ “เล่าข่าว” ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ทั้งที่ไม่ได้เป็นรูปแบบใหม่ แต่ฝีมือของสรยุทธที่เชี่ยวชาญในการ “ย่อยข่าว” ก็ทำให้ช่อง 3 กลายเป็นช่องที่ทุกคนต้องเปิดดูในยามรุ่งอรุณ

อย่างน้อยๆ แบรนด์สรยุทธ ก็ได้ทำให้รายการ “ฮาร์ดทอล์ก” ที่น่าเบื่อหน่าย กลายเป็นรายการที่เรตติ้งสูงลิบเช่นกัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในชื่อ “ถึงลูกถึงคน” เมื่ออยู่ช่อง 9 หรือจะอยู่ในชื่อ “เจาะข่าวเด่น” ในปัจจุบันก็ตาม

การสร้างความผูกพันกับคนดู การสร้างความผูกพันกับสังคมผ่านกิจกรรมสาธารณะต่างๆ ยังได้สร้างมูลค่าทางจิตใจที่ทำให้ผู้ชมเชื่อถือบทบาทของสรยุทธมากขึ้น จนหลายครั้งหลงลืมไปว่า สรยุทธก็คือนักธุรกิจ ในนามพิธีกรข่าวคนหนึ่งเท่านั้น

จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่เมื่อสรยุทธถูกศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก จึงมี “แฟนข่าว” จำนวนมาก ที่ยังเชียร์ให้จัดรายการต่อไป และขอให้แยกแยะเรื่องคดีออกจากสถานะปัจจุบัน

แบบเดียวกับต้นสังกัดที่ยังเลือกอุ้มสรยุทธต่อไป โดยอ้างเหตุผลเรื่องเหตุการณ์นั้นเกิดก่อน เป็นเรื่องส่วนบุคคล และคดียังไม่สิ้นสุด

แต่ผู้สังเกตการณ์ต่างก็รู้ดีว่า เหตุที่ช่องยังไม่ทิ้งสรยุทธ ก็เพราะในสมรภูมิทีวีนั้น หากเลือกทิ้งแม่ทัพคนสำคัญ ก็อาจพ่ายในสงครามอย่างสิ้นเชิง

เพราะแม้ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ช่องจะซื้อผู้ประกาศข่าวมามากขนาดไหน แต่ก็ไม่มีใครที่จะทำหน้าที่ข้างต้นได้ดีเท่าสรยุทธ ขณะเดียวกันสรยุทธเอง ก็ไม่ได้ปั้นทายาทขึ้นมาสักคน เพราะแม้แต่คนที่จัดรายการคู่กัน ยังทำได้แค่อ่านข่าวตามในวรรคที่สรยุทธกำหนดให้อ่านเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าองค์กรวิชาชีพสื่อ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน หรือแม้แต่ กสทช.จะมีความเห็นตรงกัน ขอให้สรยุทธพักงานตัวเอง เขาก็ไม่อาจทำตามได้ง่ายๆ

เพราะหมายถึงช่องต้องหาคนใหม่ (ซึ่งยังไม่มี) มาแทน โดยที่ไม่ทำให้เรตติ้งเช้าและเย็นได้รับผลกระทบ จนเม็ดเงินโฆษณาหลายร้อยล้านหายไป

ในสหรัฐอเมริกา มีการสำรวจพบว่าผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้รับความเชื่อถือมากกว่าประธานาธิบดี และในไทยก็น่าเชื่อว่าสรยุทธมีคนเชื่อถือมากกว่านายกรัฐมนตรีเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือหลบไปอยู่เบื้องหลัง แล้วปั้นคนใหม่ขึ้นมาแทนที่ ซึ่งด้วยมันสมองระดับสรยุทธ์คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงอะไร ส่วนช่อง 3 ก็ต้องตัดสินใจเสี่ยงกลืนเลือด มากกว่าจะถูกประณามมากไปกว่านี้ว่าอุ้มคนโกง

หากยังดันทุรังอยู่ต่อ ก็มีแต่เหนื่อยกับเหนื่อย เพราะคนอย่างสรยุทธมีคนรักมาก ก็มีคนอีกมากที่รอถล่มให้จมดินอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน