posttoday

จุดจบ ‘จอมปูด’

27 กรกฎาคม 2558

ผลของการให้ข่าวที่บิดเบือน สร้างความเสื่อมเสียให้คนอื่น ก็ต้องชดใช้การกระทำของตัวเอง

โดย...พะนะท่าน  [email protected]

ผลของการให้ข่าวที่บิดเบือน สร้างความเสื่อมเสียให้คนอื่น ก็ต้องชดใช้การกระทำของตัวเอง

พูดแล้วก็เห็นใจ “เด็จพี่” พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกเพื่อไทย และ เกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีต สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา โทษฐานแถลงข่าวหมิ่นประมาท วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญหาว่าเอนเอียงพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ เพราะให้ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์เข้าพบ

ผลงานเด็จพี่ไม่ต้องสาธยายรู้จักกันในฐานะ “นักร้อง”

อย่าเข้าใจผิดนักร้องในที่นี่ไม่ใช่ตามผับบาร์นะครับ แต่เป็นนักร้องเรียน ถ้ามีคนรวบรวมสถิติ เด็จพี่ น่าจะเด็ดสุด เป็น สส.เดินสายยื่นเรื่องให้สอบฝ่ายตรงข้าม สร้างประเด็นข่าวขึ้นหน้า 1 ได้ตลอด และเป็น “จอมร้อง” มากที่สุดในประเทศ พอๆ กับ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต สว.จอมแฉที่ผันตัวไปอยู่พรรคเพื่อไทย

“เด็จพี่” ยังเป็นนักแถลงรายวัน กับฉายา “จอมปูดตัวย่อ” กล่าวหาฝั่งตรงข้ามมากที่สุดตั้งแต่ นักการเมือง “อ.” “ส.” “ก.” “ง.” “ว.” “น.” “จ.” “ฟ.” “นายพล ป.” “นายพล อ.” ฯลฯ จนปวดหัว นับแล้วคงเหลือแต่ ฮ. นกฮูกตาโตเท่านั้นที่ยังไม่ปูดออกมา 

ถ้าไม่เชื่อไปค้นข่าวย้อนหลังในกูเกิล เสิร์ชคำว่า “เด็จพี่ปูดชื่อย่อ” จะออกมาบาน

การปูดอักษรย่อเป็นเทคนิคที่ใช้ “ไม่ให้ถูกฟ้อง” สามารถสร้างเรื่อง บิดเบือนทำลายฝ่ายตรงข้ามได้ง่าย

แต่มาเจอของจริงเมื่อตอน “แต่งเรื่อง” กล่าวหาอดีตประธานศาล รธน.นี่แหละ พอทำท่าจะแพ้คดีก็ส่ง จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเพื่อนรุ่นเดียวกับวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ไปเจรจายุติคดีแต่ฝั่งอดีตประธานศาล รธน.ไม่ยอมด้วย

หันมาดูคำพิพากษาศาลที่ “เด็จพี่” แพ้รวดตั้งแต่ชั้นต้น อุทธรณ์ และฎีกา น่าสนใจไม่น้อย

ศาลอาญา - จำเลยทั้งสองกล่าวหาใส่ความโจทก์โดยไม่มีมูลความจริง ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนแถลงข่าว จึงไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต

ศาลอุทธรณ์ - จำเลยที่ 1 (พร้อมพงศ์) จบการศึกษาดุษฎีบัณฑิต เป็นอาจารย์หลายสถาบัน ส่วนจำเลยที่ 2 จบปริญญาตรีเป็น สส.พรรคเพื่อไทย เป็นคนมีเกียรติ มีความน่าเชื่อถือของบุคคลทั่วไป ควรทำให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้สังคม ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาแก้โทษเป็นว่าให้จำคุกจำเลยโดยไม่รอลงอาญา

ศาลฎีกา - การให้ข่าวของจำเลยเป็นเท็จ เสมือนใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดได้ว่าโจทก์ไม่เป็นกลาง การที่จำเลยอ้างว่าการแถลงข่าวไม่ได้หมิ่นประมาท แต่เป็นการแสดงความคิดจึงฟังไม่ขึ้น

ความจริงแล้วพรรคเพื่อไทยควรตกรางวัลปลอบใจ “เด็จพี่” หลังออกจากคุกให้สาสมเพราะทำหน้าที่ดีเยี่ยม แต่ในทางการเมืองถือเป็นจุดจบโดยสมบูรณ์ เป็นบทเรียนให้นักปั้นเรื่องโรงน้ำแข็งที่มีอยู่มากมายดูไว้เป็นเยี่ยงที่ไม่ควรเอาอย่าง