ระวังตลิ่งพัง

โดย...เลอลักษณ์ จันทร์เทพ

คำกล่าวที่ว่า “อำนาจ” เปรียบเหมือน “นาฬิกาทราย” ที่เมื่อวันเวลาผ่านไป “เวลาและอำนาจ” จะค่อยๆ จางหายและหมดลงไปในที่สุด เหมือนกับเวลานี้ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล ที่ความนิยมเริ่มหดหายหรือจะเรียกว่าขาลง เพราะสารพันปัญหาทั้งเก่าใหม่ อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม อาชญากรรม ความมั่นคง และปัญหาทางกระบวนการยุติธรรม ปัญหาการร่างรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปประเทศ ที่ยิ่งแม่น้ำห้าสายทำออกมาเท่าไหร่ ก็กลับยิ่งถูกกระแสตีกลับเท่านั้น โดยเฉพาะปัญหาแม่น้ำสายกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน

เมื่อปัญหาการร่างรัฐธรรมนูญ หรือกติกาที่จะนำมาใช้ในบ้านเมืองเรา ทุกคนเห็นว่ามีปัญหาจริง เพราะทั้งหัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และตัวหลักกูรูด้านกฎหมาย วิษณุ เครืองาม ออกมายอมรับว่าเริ่มกังวลและเป็นห่วง แต่ทุกอย่างยังไม่สิ้นสุด อีกทั้งยังบอกอีกว่า ไม่อยากจะพูด เพราะยิ่งพูดยิ่งขัดแย้ง

นั่นแสดงให้เห็นว่าภาพรวมของแม่น้ำเจ้าพระยานั้น เป็นแม่น้ำที่ไม่นิ่ง มีคลื่นเซาะตลิ่งพร้อมที่จะพังอยู่ทุกเมื่อ ดังนั้นหากรัฐบาลหรือ คสช.ไม่ทำอะไรที่สามารถซื้อใจ หรือให้ประชาชนรู้สึกว่าเป็นผลงานที่จับต้องได้จริง

ทุบโต๊ะเลยว่า ตลิ่งพังแน่ ดังนั้นสิ่งที่นายกฯ ได้เร่งทำอยู่ถือว่ามาถูกทางแล้ว เพราะเน้นย้ำในประชุม ครม.เมื่อวานที่ผ่านมาว่า ต้องเข้มเรื่องการป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่น และเน้นให้ระดับบิ๊กในกระทรวง ทบวง กรม เป็นตัวอย่างที่ดีในการปฏิบัติตัว และปรับยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนเข้าใจและรับรู้การทำงานของรัฐบาลมากขึ้น

แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับบุคลากรภาครัฐด้วยว่าจะสามารถปรับตัว ปฏิรูปตัวเองและองค์กรให้มีภาพลักษณ์และมีเนื้องานให้ประชาชนพึงพอใจได้มากน้อยขนาดไหน เพราะนี่ต่างหากคือสิ่งที่จะสามารถช่วยต่อลมหายใจและยืดอายุของตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้อยู่ได้นานขึ้น