posttoday

ไสหัวไป!

09 กรกฎาคม 2557

เกินกว่าจะใช้คำว่าสลดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี บนโบกี้รถไฟระหว่างโดยสารเพื่อเดินทางกลับบ้าน

โดย...สันทัด กรณี

เกินกว่าจะใช้คำว่าสลดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี บนโบกี้รถไฟระหว่างโดยสารเพื่อเดินทางกลับบ้าน

น้อง...อยู่ในวัยแห่งการเริ่มต้น อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น มีอนาคตที่สดใส ไม่มีใครคาดคิดว่าทุกอย่างจะจบลงหลังการเดินทางครั้งแรกเพื่อไปเยี่ยมคุณย่าที่สุราษฎร์ธานี น้องแก้มถูกฆ่าข่มขืนอย่างโหดเหี้ยมบนรถไฟ แล้วถูกโยนร่างทิ้งออกนอกหน้าต่างระหว่างรถไฟกำลังวิ่งโดยความเร็วสูง โดยฝีมือคนของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งทำหน้าที่บนขบวนดังกล่าว

ผมขอไม่พูดถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ เพราะเป็นการแสดงความเคารพต่อน้องแก้มและครอบครัวของน้องแก้ม สิ่งที่อยากจะพูดต่อไปนี้ คือ

สำนึกของคนในการรถไฟแห่งประเทศไทย

สำนึกของคนเป็นผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย และสำนึกของนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าฯ การรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะพ่อที่มีลูกสาว 2 คน

ครับ...ผมมั่นใจว่าครอบครัวของน้องแก้มเลือกที่จะให้น้องแก้มพร้อมน้องสาวและพี่สาว เดินทางไปกลับโดยรถไฟแทนที่จะเลือกใช้รถโดยสารปรับอากาศประจำทาง ด้วยเหตุผลสำคัญเดียวคือ ห่วงใยความปลอดภัยของลูกๆ

ครับ...แม้การเดินทางจะกินเวลานานกว่า แต่ไม่ต้องกังวลในเรื่องอุบัติเหตุ และไว้วางใจในความปลอดภัย

ไม่ผิดที่ครอบครัวของน้องแก้มคิดเช่นนี้ และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศล้วนเชื่อมั่นความปลอดภัยในการ เดินทางโดยรถไฟมากกว่ารถโดยสารประจำทาง

ไม่มีใครคิดหรอกว่าคนของการรถไฟฯ บนขบวนรถไฟซึ่งมีหน้าที่ดูแลความสะดวกและความปลอดภัยของผู้โดยสารในขบวนรถ กลับทำในสิ่งตรงกันข้ามด้วยใจเหี้ยมโหดโคตรชั่วผิดมนุษย์กับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ วัยเพียง 13 ปี ซึ่งเป็นผู้โดยสาร ผู้ที่นำรายได้มาให้กับคนพวกนี้ได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเอง

เมื่อเกิดเหตุและแรกเริ่มเป็นข่าว การหายตัวอย่างปริศนาของน้องแก้มซึ่งพี่สาวพบพิรุธบนที่นอนของน้องในตู้โดยสารมีร่องรอยการต่อสู้ดิ้นรน ปลอกหมอนถูกถอด ผ้าปูที่นอนหายไป กระเป๋าเครื่องใช้ของน้องหาย

สิ่งที่นายประภัสร์ออกมาบอกกับสื่อคือ ยืนยันว่าจากการตรวจสอบไม่พบผ้าหายไป และตั้งรางวัล 5 หมื่นบาท แก่ผู้แจ้งเบาะแสจนพบตัวน้องแก้ม

ครับ...ข้อเท็จจริงคือ ผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดถูกฆาตกรทิ้งไปทางหน้าต่าง...ไหนว่าไม่หาย

เมื่อตำรวจรถไฟสอบสวนและควบคุมตัวพนักงานรถไฟบนขบวนไปสอบจนพบว่าหนึ่งคนคือนายวันชัย แสงขาว มีร่องรอยขีดข่วนบนร่าง

สิ่งที่นายประภัสร์ บอกว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นลูกจ้างบริษัทที่รับสัมปทานทำความสะอาดรถไฟ ไม่ใช่คนการรถไฟฯ

ครับ...ข้อเท็จจริงคือ ฆาตรกรเป็นลูกจ้างที่ผ่านการสอบคัดเลือกเข้าไปโดยเป็นคนของการรถไฟฯ

คนที่มีพฤติกรรมปกป้องความชั่ว ปกป้องคนชั่ว

ไอ้เรื่องจะแสดงความรับผิดชอบโดยดีนั้นอย่าได้หวัง

ฝากเรียนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์...เพื่อทราบครับพ้ม!

ข่าวล่าสุด

นายกฯ ลั่นยึดพื้นที่คืนแล้ว ปัดใช้คนกลาง สั่ง กต.แจงอาเซียน