กฎอัยการศึก
ความกังวลที่เกิดขึ้นไปทั่วนั้น ก็คือ หากบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะความรุนแรง เกิดการปะทะกันขึ้นมา จะเป็นอย่างไร
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ความกังวลที่เกิดขึ้นไปทั่วนั้น ก็คือ หากบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะความรุนแรง เกิดการปะทะกันขึ้นมา จะเป็นอย่างไร
ถ้าสถานการณ์ขั้นนั้น เห็นจะมีแต่ทหารต้องเข้ามาแก้ไข
เครื่องมือของทหารที่สำคัญ ก็คือ การประกาศใช้กฎอัยการศึก
ประเทศไทยตรากฎอัยการศึกเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรียกว่า กฎอัยการศึก ร.ศ. 126 ในปี 2450 โดยมีเพียง 8 มาตรา
กฎอัยการศึกฉบับแรกใช้อยู่เพียง 7 ปี ก็ถูกยกเลิก โดยมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 มาทดแทน
และกฎอัยการศึกฉบับดังกล่าวก็ยังคงสถานะอยู่จนถึงปัจจุบัน
และแม้กฎอัยการศึกจะมีอายุ 100 ปีเข้าไปแล้ว แต่ทว่ายังเป็นกฎหมายสำคัญด้านความมั่นคง
เนื้อหาสำคัญของกฎอัยการศึก ก็คือ เมื่อเวลามีเหตุอันจำเป็นเพื่อรักษาความเรียบร้อย ซึ่งจะมาจากเหตุภายนอก หรือภายในราชอาณาจักรก็ตาม ทหารสามารถประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่อควบคุมสถานการณ์ได้
การบังคับใช้กฎหมาย จะเลือกใช้ทุกมาตรา ใช้บางมาตรา หรือบางส่วนของมาตราใดมาตราหนึ่งก็ได้
เงื่อนไขการประกาศกฎอัยการศึก ยังสามารถกำหนดเป็นพื้นที่เฉพาะ หรือประกาศใช้ทั้งประเทศ
ถ้าประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อใด บรรดากฎหมายต่างๆ ซึ่งขัดกับกฎอัยการศึก กฎหมายนั้นต้องเลิกบังคับใช้ และใช้บทบัญญัติของกฎอัยการศึกทดแทนในทันที
ผู้มีอำนาจประกาศใช้กฎอัยการศึก กระทำได้ตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารระดับกองพันเป็นต้นไป
เมื่อมีการประกาศกฎอัยการศึก ทหารจะมีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน ในการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของทหาร
ทหารมีอำนาจเต็ม ที่จะตรวจค้น ที่จะเกณฑ์ ที่จะห้าม ที่จะยึด ที่จะเข้าอาศัย ที่จะทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ ที่จะขับไล่ รวมถึงมีอำนาจการกักตัวบุคคลที่ต้องสงสัยตามความจำเป็นได้ แต่ต้องไม่เกินกว่า 7 วัน
การประกาศใช้กฎอัยการศึกครั้งสำคัญ อาทิ ในการปฏิวัติเมื่อปี 2549 ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติยึดอำนาจจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
สถานการณ์ปัจจุบันจึงน่าติดตามอย่างยิ่ง กฎหมายอายุ 100 ปี อาจถูกนำมาใช้ภายใต้เงื่อนไขเกิดความรุนแรงขั้นจลาจล หรือการปลุกปั่นแยกดินแดน
แล้วจะรู้กันอีกครั้งว่า อะไรก็ตามยิ่งเก่าก็ยิ่งขลัง แก้วิกฤตได้อย่างชะงัด


