โลกอนาคต ณ ป(ล)ารีส | “future earth" ความหวัง-อุดมสมบูรณ์-ยั่งยืน
เมื่อเดือนกันยายน 2556 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปร่วมประชุมระดับโลกณกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศสซึ่งเป็นการประชุมที่เกี่ยวข้องกับโลกในอนาคตหรือ future earth
Future Earth เป็นเครือข่ายระดับโลกของนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยและนวัตกรที่รวมตัวกันเพื่อทำให้โลกในอนาคตมีความยั่งยืน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญ เช่น the United Nation Educational,Scientific,and Cultural Organization(UNESCO) และ the United Nation Environment Programme(UNEP) เป็นต้น โดยข้อมูลสำคัญที่ Future Earthได้เผยแพร่และคิดว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนไทย เช่น เรื่องคลื่นความร้อน (heat wave) ซึ่งอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไกลตัวจากคนไทยออกไปแต่ คลื่นความร้อน (Heat wave) เกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา ในทวีป ยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย รวมทั้ง มีความสัมพันธ์กับจำนวนฝนตกอย่างหนัก Extreme rainfall ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฝนตกหนักเพิ่มขึ้นมากกว่า 50%
สำหรับผู้แทนประเทศไทยได้เข้าร่วมการประชุมใหญ่ของเครือข่าย Future Earth อย่างเป็นทางการในปีนี้ในฐานะ Future Earth Thailand ซึ่งไทยได้แสดงจุดยืนมุ่งเน้นวาระที่สำคัญคือ การใช้อวกาศเพื่อตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาการที่ยั่งยืน sdg และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ Net Zero
ในช่วงเวลาเดียวกันปารีสยังเป็นเมืองที่จัดประชุมในวาระสำคัญอีกการประชุมหนึ่ง คืองานทางด้านอวกาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกหรืองาน International astronautical congress 2022 มีผู้ร่วมงานนับพันคนโดยเจ้าภาพได้กำหนดงานให้จัดภายใต้ตีม Space for all คือการให้อวกาศเป็นพื้นที่สำหรับทุกคน จะเห็นได้ว่าถนนทุกสายในการประชุมของนักวิทยาศาสตร์วิจัยสำคัญมุ่งสู่ปารีสเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาหากแต่ความสำคัญของปารีสนั้นได้เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตอบสนองต่อภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีคือ ความตกลงปารีส Paris agreement ซึ่งได้มีการลงนามอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2559 ตรงกับวันคุ้มครองโลก Earth Day แล้วมีผลบังคับใช้เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2559 โดยปัจจุบันมีประเทศภาคีสมาชิกร่วมลงนามในความตกลงปารีสแล้วทั้งสิ้น 197 ประเทศซึ่งรวมประเทศไทยด้วยสาระสำคัญของความตกลงปารีสคือการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส
เมื่อผมได้กลับมาที่ประเทศไทยได้มีการพูดคุยกับผู้ทรงคุณวุฒิเรื่องความยั่งยืนท่านได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับFuture Earthแล้วมีประเด็นที่น่าสนใจคือสัญลักษณ์ของเครือข่ายFuture Earthที่ตัว eและตัว a ทำเป็นสัญลักษณ์เหมือนปลาคู่
เป็นที่น่าสังเกตว่าทำฝรั่งตะวันตกและเอเชียมีความเชื่อเรื่องปลาคู่เช่นเดียวกันโดยสัญลักษณ์รูปปลาคู่ในทางโหราศาสตร์ตะวันตกคือราศีมีนหรือเรียกอีกอย่างว่า Pisces ในภาษาละตินหรือ poisson ในภาษาฝรั่งเศส โดยทางฝั่งตะวันตกเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของเทพีแห่งความงาม เทพเจ้าอโฟรไดท์ Aphrodite เทพบุตรอีโรส Eros หรือที่เรารู้จักกันในนามคิวปิด แปลงร่างเป็นปลาลงไปในแม่น้ำเพื่อหนีจากยักษ์ไทฟอนโดยใช้เชือกผูกกันไว้ไม่ให้แยกจากกัน อีกตำนานหนึ่งคือตำนานโรมันที่กล่าวว่าปลาทั้ง 2 ตัวเป็นสัญลักษณ์ของฝูงปลาที่อาสานำทางเทพทั้งสองให้หนีรอดปลอดภัยผลของการกระทำความดีนั้นเทพีแห่งความงามจึงได้ตอบแทนด้วยการนำดวงวิญญาณของปลาแม่ลูกทั้งสองขึ้นไปประดับเป็นดาวอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งคนในราศีมีนมาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นมีความสามารถและถูกเหนี่ยวนำด้วยน้ำ
อีกทั้งความเชื่อของคริสเตียน ในปี ค.ศ.100 - ค.ศ.313 การเป็นคริสตชนเป็นความผิดร้ายแรงมีโทษถึงตาย จึงมีการใช้สัญลักษณ์ปลาเป็นเหมือนรหัสลับในหมู่คริสตชนเพื่อความปลอดภัย ดังนั้น ปลา จึงมีความหมายในหมู่คริสตชนอีกอย่างด้วยว่า “พระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า พระผู้ช่วยให้รอด”
ขณะที่ประเทศฝั่งตะวันออกมีความเชื่อเรื่องปลาที่คนไทยเห็นได้อย่างชัดเจนคือความเชื่อของคนจีนที่ว่าปลาเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย โดยคำพ้องเสียงในภาษาจีนแต้จิ๋ว “ฮื้อ”แปลว่ามากมายล้นเหลือใช้แสดงถึงความหมายที่เป็นมงคล โดยมีตำนานชาวจีนกล่าวขานและรู้จักกันดีคือตำนานปลาหลีฮื้อกระโดดผ่านประตูมังกร โดย ปลาหลีฮื้อซึ่งอยู่ในตระกูลปลาคาร์ฟ อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำหวงเหอหรือแม่น้ำเหลืองต้องการไปดูทัศนียภาพของประตูมังกรที่กล่าวกันว่าเป็นปากทางสวรรค์มีความงดงามยิ่งนัก จึงพากัน ว่ายทวนน้ำจนมาถึงประตูมังกรซึ่งสูงชันปลาหลีฮื้อไม่อาจว่ายข้ามไปได้ หากแต่มีปลาหลีฮื้อสีแดงตัวใหญ่ตัวหนึ่งกล่าวด้วยความมุ่งมั่นว่า
“ข้าคือปลาหลีฮื้อสีแดงท่ากระโดดข้ามประตูมังกรได้บัดนี้ข้ากลายเป็นมังกรแล้วพวกเจ้าอย่าได้ละความพยายามจะได้เป็นมังกรเยี่ยงข้า”
ปลาหลีฮื้อได้ยินดังนั้นก็พากันกระโดดผ่านประตูมังกรอันสูงส่งขึ้นไปได้ ชาวจีนจึงนับถือปลาหลีฮื้อเป็นสัญลักษณ์ของความเพียรพยายามความมุ่งมั่นเพื่อเปลี่ยนชีวิตให้ประสบความสำเร็จ
คนจีนจึงนิยมให้ปลาหลีฮื้อในรูปแบบเป็นรูปภาพหรือรูปแกะสลักแทนคำอวยพรขอให้ประสบความสำเร็จเหลือกินเหลือใช้และยังเชื่ออีกว่าปลาคู่ช่วยเสริมในเรื่องของความสัมพันธ์ของครอบครัวให้รักใคร่ปรองดอง
คนญี่ปุ่นมีความเชื่อในลักษณะเดียวกันที่ปลาคาร์ฟว่ายทวนน้ำจนกลายเป็นมังกรจึงได้เอามาเป็นคติเป็นตัวแทนของเด็กผู้ชายเมื่อโตขึ้นมีความเข้มแข็งอดทนบากบั่นไม่ย่อท้อ
ในขณะที่อินเดียนับถือปลาเป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับน้ำและความอุดมสมบูรณ์โดยสังเกตได้จากรอยพระพุทธบาทในพุทธศาสนามีปลาเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่แสดงถึงความสำเร็จและความสุข
เกร็ดสาระเรื่องปลาคู่ในวันนี้ที่เกี่ยวข้องกับFuture Earth ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีนวัตกรรมจะนำให้ปลาคู่จึงเป็นความบังเอิญหรือความตั้งใจของคนคิดสัญลักษณ์ที่มุ่งหมายให้เห็นว่าอนาคตของโลกจะมีความหวังเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และความยั่งยืนเป็นความหวังที่มีความเชื่อของทั้งฝรั่งตะวันออกและคนเอเชีย


