เลิกแล้วค่ะ
ถือเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว ที่คณะรัฐมนตรีเบรกแผนการคุมราคาอาหารจานด่วน 10 รายการ
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
ถือเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว ที่คณะรัฐมนตรีเบรกแผนการคุมราคาอาหารจานด่วน 10 รายการ
กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี ไม่ได้พิจารณาข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ เพียงแต่ได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปหารือกับผู้ประกอบการร้านค้าให้ขายอาหารในราคา ปริมาณ และคุณภาพใกล้เคียงกับของเดิม
ทั้งนี้ หากราคาต้นทุนวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้น ก็สามารถปรับราคาขึ้นในระยะสั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ แต่ถ้าเมื่อใดที่ราคาวัตถุดิบปรับลดลง ราคาอาหารปรุงสำเร็จก็ควรจะปรับลดลงตามด้วย
สาเหตุเนื่องจากอาหารปรุงสำเร็จมีความแตกต่างจากสินค้าอื่น เช่น ค่าเช่าพื้นที่ของแต่ละร้านค้าและความพึงพอใจของผู้บริโภค จึงสามารถขายได้ตั้งแต่อาหารราคาถูกไปจนถึงราคาแพง ขณะที่สินค้าควบคุมเดิม 42 รายการเป็นสินค้ามาตรฐาน สามารถคำนวณราคาได้อย่างถูกต้อง
และเรื่องทั้งหมดคงไม่จำเป็นต้องนำกลับเข้ามาเสนอใน ครม. อีก
แปลความได้ชัดเจนก็คือ ไม่เอาแล้ว เลิกแล้วค่ะ ก็ว่าได้
งานนี้ต้องบอกว่าค่อยยังชั่ว
สิ่งที่รัฐบาล หรือกระทรวงพาณิชย์ทำ ต้องไม่ใช่การฝืนกลไกตลาดควบคุมราคา เพราะมันเอาไม่อยู่หรอก
หน้าที่สำคัญของรัฐก็คือ การทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการลดลง เปิดโอกาสให้แข่งขัน อย่าให้เกิดการผูกขาดสร้างราคา และประชาชนมีทางเลือกในการจับจ่ายสินค้า
ตัวอย่างที่จะยกขึ้นมาอีก อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่ดูแล ให้จำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด 2030% โดยสั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดไปประสานงานกับโรงงานต่างๆ นำสินค้าอุปโภคและบริโภคมาขาย
สินค้าที่จะนำมาจำหน่าย เช่น สินค้าอุปโภค บริโภค อาหารสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช น้ำตาล ข้าวถุง ผงซักฟอก ชุดนักเรียน
ขณะนี้มีผู้ผลิตสินค้าบางรายที่ตอบรับให้ความร่วมมือแล้ว เช่น ผู้ผลิตน้ำตาล ชุดนักเรียน อาหารกระป๋อง
ส่วนสถานที่จำหน่ายสินค้ากำลังพิจารณา ที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ สนามกีฬา รวมถึงการเข้าร่วมจำหน่ายสินค้ากับหน่วยงานอื่น เช่น กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
นี่แหละ จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ดูแล้วเข้าท่า เข้าที หรือพอไปไหว ก็ทำไป
ไม่ใช่คิดอะไรออกมาแต่ละอย่าง เป็นอันต้องเบือนหน้าหนี
ประทานโทษ ฯพณฯ นี่มัน พ.ศ. อะไรกันแล้วหว่า