posttoday

ต้องยอมรับศาลโลก

18 กรกฎาคม 2554

โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย

โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย

เป็นสถานการณ์ร้อนที่ต้องจับตากันตลอดวัน เมื่อศาลโลกจะมีคำวินิจฉัยปัญหาระหว่างไทยกับเขมร

เขมรไปฟ้องร้องต่อศาลโลก ขอความคุ้มครองชั่วคราวให้ไทยถอนทหารออกจากชายแดนแถบปราสาทพระวิหารที่มีข้อพิพาท และต้องการให้ตีความคำตัดสินของศาลโลกเมื่อปี 2505

คำตัดสินครั้งกระโน้น ศาลโลกชี้ว่าตัวปราสาทพระวิหารเป็นของเขมร แต่ไม่ได้ตัดสินว่าดินแดนภายใต้ปราสาทเป็นของใคร

แน่นอน เขมรอยากให้ศาลโลกชี้ขาดดินแดนแถบนั้นเป็นของตัว

กระแสข่าวที่ออกมา การตัดสินของศาลโลกวันนี้จะมี 3 แนวทาง

1.ไม่รับคำร้องของเขมร

2.ให้ไทยถอนทหารออกไปจากพื้นที่พิพาท

และ 3.ให้ทั้งไทยและเขมรต้องถอยคนละก้าว อาทิ ถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท

เมื่อวานบังเอิญมีกระแสข่าวจากสำนักข่าวต่างชาติ ระบุทำนองว่า ท่าทีศาลโลกจะออกมาว่าให้ไทยถอนทหาร

ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น หลายๆ คนออกความเห็น ถ้าให้ถอนทหารไทยไม่จำเป็นต้องยอมรับ เพราะศาลโลกไม่มีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนไทย และไม่มีอำนาจชี้ขาดเรื่องดินแดน

พูดอีกก็ถูกอีก

แต่ทว่าถ้าศาลโลกมีคำตัดสินใดๆ ขึ้นมา แล้วเกิดประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ยอมรับ เห็นทีจะมีผลเสียอย่างมหาศาล

สาเหตุสำคัญ แม้ศาลโลกไม่มีอำนาจบังคับก็จริง แต่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลโลกจะเป็นตัวบังคับคู่กรณีทางอ้อม

เพราะศาลโลกจะตัดสินคดีความไม่ได้หากคู่กรณีไม่ยอมรับ ไม่ยอมนำคดีขึ้นศาลโลก

อย่างกรณีปราสาทพระวิหาร ทั้งไทยและเขมรต้องยอมรับว่าจะเอาเรื่องให้ศาลโลกตัดสิน ก็เท่ากับทั้งสองฝ่ายเชื่อถือในศาลโลก

ในกระบวนการพิจารณาคดี ศาลโลกยังให้แต่ละฝ่ายมาเบิกความ แสดงหลักฐานต่างๆ นั่นก็เป็นการตอกย้ำอีกว่า คู่กรณียอมรับในกระบวนการของศาลโลก ถึงมาเบิกความกัน

แต่พอตัดสินออกมา หากฝ่ายใดไม่ยอมรับ เท่ากับเป็นคนเกเร

และแม้ศาลโลกจะบังคับใครไม่ได้ แต่ถ้ามีคำตัดสิน ฝ่ายใดไม่ยอมทำตาม อีกฝ่ายหนึ่งสามารถกดดันผ่านเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้อีก

เมื่อถึงขั้นนั้น ใครเป็นคนเกเรเห็นทีจะย่ำแย่

ใครที่บอกไม่ต้องยอมรับคำตัดสินศาลโลก โปรดคิดใหม่ให้จงดี

 

ข่าวล่าสุด

กกต. เห็นชอบร่างแผนเลือกตั้ง – กำหนดวันใช้สิทธิ์ 8 ก.พ. 69