ปีใหม่ 2569 ตลาดเหนื่อย! หุ้นไทยไร้แรงฟื้น หลบภัยหุ้นปันผล-ถือเงินสด รอจังหวะโลก
หุ้นไทยปิดเทรดส่งท้ายปี 2568 บวก 5.64 จุด แตะ 1,259.67 จุด ด้วยวอลุ่มกว่า 3 หมื่นล้านบาท แม้หุ้นไทยค่า P/E ต่ำและปันผลดี แต่ปี 2569 "ดร.นิเวศน์" มองว่ายังขาดปัจจัยฟื้น ตัวแปรสำคัญคือรัฐบาลและทีมเศรษฐกิจที่ต้องเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า
KEY
POINTS
- หุ้นไทยปิดเทรดส่งท้ายปี 2568 บวก 5.64 จุด แตะ 1,259.67 จุด ด้วยวอลุ่มกว่า 3 หมื่นล้านบาท
- แม้หุ้นไทยค่า P/E ต่ำและปันผลดี แต่ปี 2569 "ดร.นิเวศน์" มองว่ายังขาดปัจจัยฟื้น
- ตัวแปรสำคัญคือรัฐบาลและทีมเศรษฐกิจที่ต้องเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า
หากปี 2568 คือ ปีแห่งความเหนื่อยล้าของตลาดทุนไทย ภาพฉายชัดผ่านความเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในความเคลื่อนไหวของวันที่ 30 ธันวาคม 2568 วันสุดท้ายของการเทรดหุ้น ก่อนหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
โดยดัชนีปิดที่ 1,259.67 จุด เพิ่มขึ้น 5.64 จุด คิดเป็น +0.45% มูลค่าการซื้อขาย 32,518.33 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,260.47 จุด ลดลงต่ำสุด 1,251.35 จุด
ด้วยแรงซื้อของนักลงทุนบัญชี บล. จำนวน 400.49 ล้านบาท ขณะที่แรงขายสถาบัน -208.89 ล้านบาท, ต่างประเทศ -48.57 ล้านบาท และรายย่อยในประเทศ -143.03 ล้านบาท
ในปี 2569 ในสายตาของ "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" ก็อาจเป็นปีที่ตลาดหุ้นไทยต้อง "เดินกะเผลก" ต่อไป
นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) ระดับตำนานของไทย ให้ภาพเปรียบเทียบที่ชัดเจนว่า ในปี 2569 ตลาดหุ้นไทยอาจไม่ถึงขั้นล่มสลาย แต่ก็ไม่ใช่ปีแห่งการพุ่งทะยาน
ไม่ใช่ "ม้าผยอง"
หากแต่เป็น "ม้าขาเก"
ภาพนี้สะท้อนมุมมองว่า แม้บางสินทรัพย์ในโลกยังทำ All-time high ไม่ว่าจะเป็นหุ้นกลุ่ม AI หรือ ทองคำ แต่สำหรับตลาดหุ้นไทย กลับยังวนอยู่ในจุดเดิม "ราคาหุ้นลงมาเยอะ ค่า P/E ต่ำ ปันผลดูดี" แต่… แรงฟื้นยังไม่มา
ในด้านเศรษฐกิจ ดร.นิเวศน์ มองว่า ตัวเลขปี 2568 ที่อ่อนแอ อาจไม่ใช่จุดต่ำสุด และปี 2569 มีความเสี่ยงที่จะ "ไม่ดีขึ้น หรืออาจแย่ลง" จากหลายปัจจัยกดดัน
โดยเฉพาะ ความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่กระทบทั้งเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการค้าชายแดน ซึ่งยังไม่เห็นจุดจบที่ชัดเจน
แม้หุ้นไทยจะดู "ถูก" ในเชิงตัวเลข แต่เมื่อไร้ Catalyst นักลงทุนจำนวนไม่น้อยจึงเลือกทางรอดแบบเงียบๆ "ถือหุ้นต่อเพื่อกินปันผล แทนการหวัง Capital Gain"
สำหรับประเด็นที่ต้องจับตาในปี 2569 ดร.นิเวศน์ ตอบอย่างระมัดระวัง แต่ชัดเจนว่า "การเมือง" คือโจทย์ใหญ่ที่สุด
- ประเทศไทยต้องมีรัฐบาลที่ "บริหารเป็น" เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
- ทีมเศรษฐกิจต้องมีแนวคิด เสรีนิยม เปิดกว้างทางการค้า เชื่อมโลก
- สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุน ดึงเม็ดเงินต่างชาติ และสนับสนุน Start-up อย่างจริงจัง
เพราะหากประเทศยังติดอยู่กับบรรยากาศของความขัดแย้งระหว่างประเทศอย่างในปีนี้บรรยากาศการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว…ไม่มีวันวิ่งได้เต็มสปีด
กลยุทธ์ลงทุนปี 2569 ในมุม "ดร.นิเวศน์"
- ถือเงินสด (Cash is King) ถือเงินสดในสัดส่วนสูง เพื่อรอจังหวะลงทุน โดยเฉพาะโอกาสใน "ตลาดต่างประเทศ" หากเกิดการปรับฐานแรง
- หุ้นปันผลดี (Dividend Stocks) เน้นหุ้นที่ผลประกอบการไม่ถดถอย จ่ายปันผลสม่ำเสมอ อย่างน้อย 5% ต่อปี กระจายหลายตัว หลายอุตสาหกรรม กลุ่มที่น่าสนใจ เช่น ธนาคาร หรือธุรกิจที่ฐานรายได้แข็งแรง
เปรียบได้กับการเดินเรือในน่านน้ำที่ยังไม่มีลมส่ง การพยายามฝืนแล่นไปในขณะที่มีพายุความขัดแย้งล้อมรอบอาจทำได้ยาก วิธีที่ดีที่สุดคือการเตรียมเสบียง (เงินสด) ให้พร้อม และเลือกจอดพักในอ่าวที่ปลอดภัย (หุ้นปันผล) จนกว่าบรรยากาศจะเปลี่ยนจากสนามรบเป็นตลาดการค้าที่คึกคักอีกครั้ง.


