เปิดเหตุผล ก.ล.ต.เพิ่งสั่ง “แอน-จักรพงษ์” ห้ามออกนอกประเทศ หลังหนีไปแล้ว
ก.ล.ต. ตอบข้อกังขา ทำไมเพิ่งสั่งยึดอายัดทรัพย์ “แอน-จักรพงษ์” และห้ามออกนอกประเทศ หลังหนีไปแล้ว กระบวนการหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
KEY
POINTS
- ก.ล.ต. ตอบข้อกังขา ทำไมเพิ่งสั่งยึดอายัดทรัพย์ “แอน-จักรพงษ์” และห้ามออกนอกประเทศ หลังหนีไปแล้ว ว่าในช่วงแรกที่ตรวจสอบ นายจักรพงษ์ยังให้ความร่วมมือและไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขทางกฎหมายในการสั่งห้ามเดินทางหรืออายัดทรัพย์สิน
- คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการขยายผลสอบสวนที่พบหลักฐานการทุจริตเพิ่มเติม และเมื่อปรากฏชัดว่านายจักรพงษ์ได้หลบหนีออกนอกประเทศพร้อมมีพฤติกรรมยักย้ายทรัพย์สิน
- แม้จะหลบหนีไปแล้ว การออกคำสั่งห้ามเดินทางเป็นขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อขอให้ศาลขยายเวลาคำสั่งต่อไป และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามผู้กระทำผิด
ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขยายผลการตรวจสอบโดยกล่าวโทษ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN อดีตกรรมการและอดีตผู้บริหาร ผู้บริหาร และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวม 12 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีส่งหรือเปิดเผยงบการเงินและแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1 One Report) โดยมีงบการเงินที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงในสาระสำคัญที่ควรแจ้ง กรณีร่วมกันทุจริตและตกแต่งงบการเงินของ JKN ในช่วงปี 2565 ถึงปี 2566 และกรณีขายหุ้น JKN โดยอาศัยข้อมูลภายใน ในช่วงปี 2566 รวมทั้งมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดกรณีทุจริตและตกแต่งงบการเงิน รวม 4 ราย พร้อมกันนี้ได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
หลายคนคงมีความสงสัยว่า ก.ล.ต.ดำเนินการช้าไปหรือไม่ และทำไมเพิ่งมายึดอายัดทรัพย์ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ และ นางสาวพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ และห้ามออกนอกประเทศ ทั้งที่ได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งทาง ก.ล.ต.ได้ออกมาชี้แจง ดังนี้
ทำไมเพิ่งมาอายัดทรัพย์ และห้ามออกนอกราชอาณาจักร
ในครั้งที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษ JKN นายจักรพงษ์ และนางสาวพิมพ์อุมา ในเดือนมิถุนายน 2568 ก.ล.ต. ไม่พบว่า นายจักรพงษ์และนางสาวพิมพ์อุมา มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่พบพฤติการณ์สงสัยว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน โดยนายจักรพงษ์และนางสาวพิมพ์อุมา มีการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรหลายครั้งในช่วงที่ ก.ล.ต. ตรวจสอบการกระทำความผิดดังกล่าว
โดยนายจักรพงษ์และนางสาวพิมพ์อุมา มาให้ถ้อยคำและมีหนังสือชี้แจงต่อ ก.ล.ต. ทุกครั้งก่อนที่ ก.ล.ต. จะกล่าวโทษในเดือนมิถุนายน 2568 รวมทั้งนายจักรพงษ์ยังปรากฏตัวในสื่อต่าง ๆ ทำให้ไม่เข้าเหตุตามมาตรา 267 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ในการมีคำสั่งห้ามออกนอกราชอาณาจักร และมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินในครั้งก่อน
การกล่าวโทษเพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นการขยายผลการตรวจสอบต่อจากที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ทำให้พบพยานหลักฐานเพิ่มเติมในความผิดเรื่องของการทุจริตจากที่เคยกล่าวโทษไปแล้ว และเมื่อปรากฏว่า นายจักรพงษ์ และนางสาวพิมพ์อุมา หลบหนีออกจากราชอาณาจักรแล้ว รวมทั้งพบพฤติการณ์ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน และเป็นคดีที่มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง จึงเข้าเหตุสั่งยึดอายัดทรัพย์สินและห้ามออกนอกราชอาณาจักร ตามมาตรา 267 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ
ทำไมห้ามนายจักรพงษ์และนางสาวพิมพ์อุมา ออกนอกราชอาณาจักร ทั้งที่หลบหนีไปแล้ว
การสั่งการออกนอกราชอาณาจักรครอบคลุมบุคคลที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษครั้งนี้ (25 ธันวาคม 2568) มีผู้ร่วมกระทำความผิดรวม 4 ราย ได้ร่วมกันทุจริต โดยเป็นการสั่งการเป็นเวลา 15 วัน และในทางขนาน ก.ล.ต. จะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอขยายเวลาการสั่งห้ามออกนอกราชอาณาจักรต่อไป
กรณีมีข่าวว่านายจักรพงษ์นำเงินไปซื้อคริปโท
ในการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบว่ามีการนำเงินออกจาก JKN ไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนและหุ้นกู้ของ JKN ซึ่งเป็นกรณีที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษในครั้งนี้ แต่ไม่พบเส้นทางเงินที่นำไปซื้อคริปโท
อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. ได้ประสานและมีหนังสือแจ้งการดำเนินคดีเรื่องการยักยอกหรือทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจเข้าข่ายการฉ้อโกงหรือยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระเป็นความผิดมูลฐาน และความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อันเป็นความผิดมูลฐานเช่นกัน ไปยังสำนักงาน ปปง. ด้วย และพร้อมที่จะประสานความร่วมมือกับสำนักงาน ปปง. ในการติดตามยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป
กระบวนการหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
กระบวนการเกี่ยวเนื่อง
(1) ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้มีการประสานงานกับพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเร่งรัดกระบวนการบังคับใช้กฎหมายและช่องทางในการติดตามผู้กระทำความผิดที่เดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปแล้ว
(2) การห้ามเดินทาง ในเบื้องต้น ก.ล.ต. ได้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อให้ดำเนินการตามคำสั่ง เป็นระยะเวลา 15 วัน ซึ่งในทางขนานกัน ก.ล.ต. จะต้องร้องขอต่อศาลเพื่อให้พิจารณาสั่งห้ามการห้ามเดินทางออกนอกประเทศเพิ่มเติม
(3) กรณีการอายัดทรัพย์สิน ก.ล.ต. ได้แจ้งคำสั่งไปยังหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการอายัดทรัพย์สิน เช่น บัญชีเงินฝาก หลักทรัพย์ รถยนต์ ที่ดิน เป็นต้น เป็นระยะเวลา 180 วัน และ ก.ล.ต. สามารถขยายระยะเวลาการอายัดทรัพย์สินได้เพิ่มอีก 180 วัน โดยร้องขอต่อศาล
(4) ในทางขนาน ก.ล.ต. จะร่วมมือกับพนักงานสอบสวนในการเร่งรัดกระบวนการเพื่อส่งฟ้องต่อศาล
เหตุใดจึงไม่อายัดทรัพย์สินของบริษัท
กระบวนการอายัดทรัพย์สินของ ก.ล.ต. เป็นไปเพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเทของผู้กระทำความผิด โดยในส่วนของบริษัท JKN เนื่องจากปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลาย อยู่ในอำนาจศาลล้มละลายกลาง ซึ่งได้แต่งตั้งบริษัท แกรนท์ ธอนตัน สเปเซียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูของบริษัท ทำหน้าที่แทนคณะกรรมการและใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นตามกฎหมาย ในการบริหารจัดการและดูแลการดำเนินกิจการของบริษัทในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดย ก.ล.ต. ได้มีการประสานงานกับ บริษัทแกรนท์ ธอนตัน ในเรื่องที่เกี่ยวกับ JKN ภายหลังจากที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ทำแผน


