posttoday

เจาะ 3 เคล็ดลับเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีปี 68 พร้อมคัด 7 กองทุนเด่น

07 ธันวาคม 2568

เปิด 3 หลักเกณฑ์เลือกกองทุนลดหย่อนภาษีปี 68 แนะไม่ควรมองแค่ผลตอบแทน แต่ต้องดูความเสี่ยง ระยะเวลา และเป้าหมายทางการเงิน เพื่อให้เลือกกองทุนที่เหมาะสม พร้อมคัด 7 กองทุนเด่น

KEY

POINTS

  • หลักเกณฑ์การเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีปี 68 ควรพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้, ระยะเวลาและเงื่อนไขการลงทุน และนโยบายของกองทุน
  • บล.พาย คัดเลือก 7 กองทุนเด่นสำหรับลดหย่อนภาษี ครอบคลุมทั้งกองทุน Thai ESG และ RMF ที่ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายตั้งแต่ตราสารหนี้ไปจนถึงหุ้นทั่วโลก
  • การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีควรมองเป็นการวางแผนการเงินระยะยาว โดยเฉพาะ RMF เพื่อการเกษียณ และควรทยอยซื้อก่อนสิ้นสุดโอกาสในวันที่ 30 ธ.ค.68

ใกล้สิ้นปี 2568 นับเป็นโค้งสุดท้ายที่นักลงทุนกำลังมองหากองทุนลดหย่อนภาษีทั้ง Thai ESG และ RMF เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ช่วยลดภาระได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าจะมีกองทุนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งตราสารหนี้ กองทุนผสม และกองทุนหุ้น ทั้งในและต่างประเทศ แต่คำถามหลักที่ยากที่สุดคือ “แล้วจะเลือกกองไหนดี?” 

“กฤช โคมิน” CFA. Head of Wealth Product & Investment Strategy บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า การเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีไม่ควรมองเพียงแค่ประโยชน์ด้านภาษีเท่านั้น แต่ควรถือเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินระยะยาวด้วย โดยเฉพาะกองทุน RMF ที่ออกแบบมาเพื่อการเกษียณ จึงควรเลือกด้วยความรอบคอบและสอดคล้องกับเป้าหมายชีวิตของตนเอง

สำหรับนักลงทุนกลุ่ม High Net Worth ที่มีฐานภาษีสูง ถือเป็นโอกาสที่ดีในการวางแผนการลงทุนเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุดรวมกันถึง 8 แสนบาท ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 

กฤช โคมิน

3 หลักเกณฑ์สำคัญเลือกกองทุนที่เหมาะสม

หลักเกณฑ์สำคัญ 3 ประเด็นหลักที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญ เพื่อให้สามารถถือครองกองทุนได้ในระยะยาวและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี ประกอบด้วย

1. ระดับความเสี่ยงที่รับได้

นักลงทุนควรประเมินความผันผวนที่ตนเองรับได้ก่อนตัดสินใจ หากเป็นผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ กองทุนที่เน้นตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้คุณภาพดี จะมีความผันผวนน้อย และช่วยรักษาเงินต้นได้ดี แต่หากต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวและรับความเสี่ยงได้มากขึ้น การเลือกกองทุนที่เน้นตราสารทุน (หุ้น) หรือสินทรัพย์ที่มีศักยภาพเติบโตสูงจะตอบโจทย์กว่า

2. ระยะเวลาการลงทุนและเงื่อนไขด้านภาษี

กองทุนลดหย่อนภาษีมีเงื่อนไขการถือครองที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องมั่นใจว่าสอดคล้องกับเป้าหมายของเรา

  • Thai ESG Fund: ต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นทางการเงินมากกว่า
  • RMF (Retirement Mutual Fund): ถูกออกแบบมาเพื่อการเกษียณ โดยต้องถือครองจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และลงทุนต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี

3. นโยบายการลงทุนของกองทุน

นโยบายการลงทุนเป็นตัวกำหนดความเสี่ยงและผลตอบแทนในอนาคต ผู้ลงทุนควรพิจารณาว่ากองทุนเน้นลงทุนในสินทรัพย์ใด

  • ตราสารหนี้: เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของเงินต้น
  • ตราสารทุน: เหมาะสำหรับผู้ที่มุ่งหวังโอกาสการเติบโตของเงินลงทุน
  • กองทุนผสม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างความมั่นคงและการเติบโต

เคล็ดลับคัดกองทุนลดหย่อนภาษี 2568

คัด 7 กองทุนลดหย่อนภาษีเด่นครอบคลุมทุกสไตล์การลงทุน

บล.พาย ได้คัดเลือก 7 กองทุนที่มีศักยภาพครอบคลุมทั้งตราสารหนี้ กองผสม หุ้นไทย และหุ้นต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นทางเลือกในการลดหย่อนภาษีและเพิ่มโอกาสเติบโตของพอร์ตในระยะยาว

กลุ่มกองทุน Thai ESG (ถือครอง 5 ปีปฏิทิน)

  • KKP GB THAI ESG: กองทุนตราสารหนี้ภาครัฐระยะยาว (Best in Class) สำหรับนักลงทุนที่ต้องการความเสี่ยงต่ำและรักษาเสถียรภาพของพอร์ต แม้ในช่วงสั้นอาจผันผวนจากทิศทางอัตราดอกเบี้ย แต่โดยรวมถือว่านิ่งกว่าสินทรัพย์อื่น
  • K-BL30-THAIESG: กองทุนผสมที่เน้นตราสารหนี้และมีการกระจายการลงทุนในหุ้นไทย 30% สร้างสมดุลระหว่างโอกาสเติบโตและการบริหารความผันผวนของพอร์ต
  • SCBTP(ThaiESGA): กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่ที่มีฐานธุรกิจมั่นคงและมาตรฐาน ESG ที่ดี ให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อตลาดหุ้นเป็นขาขึ้น แต่มีความผันผวนสูงขึ้นในระยะสั้น

7 กองทุนลดหย่อนภาษีเด่น

กลุ่มกองทุน RMF (เพื่อการเกษียณ)

K-FIRMF: กองทุนแกนหลักสายตราสารหนี้สำหรับพอร์ตเกษียณ เน้นความมั่นคงระยะยาวในประเทศผ่านการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีและพันธบัตรรัฐบาล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเสี่ยงต่ำและผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
UGISRMF: ทางเลือก Income Fund ระดับโลก เน้นสร้างกระแสรายได้สม่ำเสมอผ่านการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก โดยส่งเงินไปบริหารต่อผ่านกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ซึ่งช่วยเสริมเสถียรภาพและกระจายความเสี่ยงออกนอกตลาดไทย
ES-GQGRMF: Global Quality RMF เน้นการสร้างการเติบโตระยะยาว ผ่านการลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก และได้รับเรตติ้งระดับ 5 ดาวจาก Morningstar เน้นบริษัทที่มีความแข็งแรงเรื่องกำไรที่เติบโตดี
KFGGRMF: Global Growth RMF ระดับ Morningstar 5 ดาว เน้นลงทุนในบริษัทระดับโลกที่มีศักยภาพเติบโตสูง เช่น กลุ่มเทคโนโลยีใหม่ และธุรกิจที่เปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจโลกในระยะยาว ผ่านการบริหารจากกองทุน Baillie Gifford

“กฤช” ย้ำเตือนให้นักลงทุนเริ่มวางแผนภาษีและทยอยซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยสามารถซื้อกองทุน RMF และ Thai ESG ได้จนถึงวันที่ 30 ธ.ค.2568 การรอจนถึงวันสุดท้ายอาจทำให้พลาดโอกาสรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในปีนี้ไปได้

ข่าวล่าสุด

พาณิชย์ดัน “ข้าวประณีต–สินค้า GI” โกอินเตอร์ ปิดดีล 450 ตัน