posttoday

ก.ล.ต.ส่งอัยการฟ้องผู้กระทำผิด 1 ราย ปั่นหุ้น PRINC ต่อศาลแพ่ง ให้จ่าย 63 ล้าน

02 ธันวาคม 2568

ก.ล.ต. ขอให้พนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 1 ราย ต่อศาลแพ่ง กรณีสร้างราคาหุ้น PRINC ให้จ่ายรวมกว่า 63 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ห้ามซื้อขายหุ้น และเป็นกรรมการ-ผู้บริหาร

KEY

POINTS

  • ก.ล.ต. ส่งเรื่องให้อัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 1 ราย ต่อศาลแพ่ง ในข้อหาสร้างราคาหุ้น PRINC
  • ผู้กระทำความผิดรายดังกล่าวไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง จึงถูกฟ้องเรียกเงินรวมกว่า 63 ล้านบาท
  • คดีนี้มีผู้กระทำผิดรวมทั้งหมด 6 ราย แต่ 5 รายได้ยินยอมชำระค่าปรับตามมาตรการลงโทษทางแพ่งไปแล้ว

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้พนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 1 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด

ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) ก่อนหน้านี้ ได้มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่ง มาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดรวม 6 ราย ในกรณีสร้างราคาหุ้นของ PRINC โดยกำหนดให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 426,795,221 บาท (ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด) และกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นระยะเวลารายละ 33.5 เดือน หรือ 28 เดือน หรือ 36.5 เดือน หรือ 34 เดือน หรือ 17 เดือน หรือ 20 เดือน (แล้วแต่กรณี) และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นระยะเวลารายละ 67 เดือน หรือ 56 เดือน หรือ 73 เดือน หรือ 68 เดือน หรือ 34 เดือน หรือ 40 เดือน (แล้วแต่กรณี)

ทั้งนี้ ผู้กระทำความผิดรายนางสาวภีชญา กริ่มวงศ์รัตน์ ไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ซึ่งพิจารณาได้ว่า นางสาวภีชญา ไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ส่วนผู้กระทำความผิดที่เหลืออีก 5 ราย ได้ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดแล้ว

ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีนางสาวภีชญาต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง โดยให้ชำระเงินรวมทั้งสิ้น 63,326,886 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามนางสาวภีชญาซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ

อนึ่ง ก.ล.ต. ได้นำส่งการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 

ข่าวล่าสุด

Smart Money 25 สถาบันฯ ลุย ขับเคลื่อน การลงทุนมั่นคง