SAPPE มั่นใจกลับสู่การเติบโตปี 69 รับธุรกิจต่างประเทศทยอยฟื้นตัว
SAPPE มั่นใจกลับสู่การเติบโตปี 69 รับธุรกิจต่างประเทศทยอยฟื้นตัว หลังงบไตรมาส 3/68 มีรายได้ 1,349 ล้านบาท ลดลง 13.9% และทำกำไรสุทธิ 183 ล้านบาท ลดลง 39%
KEY
POINTS
- SAPPE คาดการณ์ว่าธุรกิจในต่างประเทศจะกลับมาเติบโตในปี 2569 โดยมีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนจากตลาดสำคัญ เช่น ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย
- ผลการดำเนินงานในปี 2569 จะได้รับปัจจัยหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบสำคัญ เช่น เรซินและน้ำตาล ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง
- งบไตรมาส 3/68 มีรายได้ 1,349 ล้านบาท ลดลง 13.9% และทำกำไรสุทธิ 183 ล้านบาท ลดลง 39%
บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 มีรายได้จากการขาย 1,349 ล้านบาท ชะลอตัว 13.9% จากไตีมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) และกำไรสุทธิ 183 ล้านบาท ลดลง 39.0%YoY
ทั้งนี้ หลายตลาดเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน โดยเฉพาะยุโรปที่ทยอยกลับมาเติบโตตามแผน ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบสำคัญมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานในปี 2569
“ปิยจิต รักอริยะพงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า ยอดขายต่างประเทศมีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าปีนี้จะเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกผันผวนและสถานการณ์ในหลายภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าในปี 2569 รายได้มีแนวโน้มกลับสู่การเติบโตในทุกภูมิภาค รวมถึงตลาดสำคัญอย่างยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย
ในส่วนของตลาดในประเทศ บริษัททำรายได้ 380 ล้านบาท เติบโต 2%YoY โดยครึ่งปีแรกเติบโต 28.9%YoY และภาพรวม 9 เดือนแรกปี 2568 ยังเติบโต 19.1%YoY
SAPPE ยังคงมุ่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ Global Marketing ของ Mogu Mogu อย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญและความร่วมมือกับศิลปินระดับโลกในเกาหลีใต้ เช่น BTS, SEVENTEEN และ TXT เพื่อเข้าถึงกลุ่ม Gen Z และ Gen Alpha
รวมไปถึงขยายฐานผู้บริโภคในฝรั่งเศส ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร โดยแคมเปญ#MyFirstMoguMogu Mobile Sampling Tour ในสหรัฐฯ ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ได้ผลตอบรับดีและช่วยสร้างฐานผู้บริโภคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายพอร์ตสินค้าใหม่ เช่น สูตรน้ำตาล 0% และ Mogu Mogu Pretzel รวมถึงความร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ เพื่อสร้างความสดใหม่และตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มเคี้ยวได้ระดับโลก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ปีนี้จะเป็นปีท้าทาย แต่ทิศทางไตรมาสที่ผ่านมาเริ่มชัดเจนว่าเรากำลังฟื้นตัว รายได้ต่างประเทศติดลบน้อยลงต่อเนื่อง และเราคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ในปีหน้า โดยมีแรงหนุนจากคำสั่งซื้อที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ และต้นทุนวัตถุดิบอย่างเรซินและน้ำตาลที่ปรับลดลง ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการปี 2569 แข็งแรงขึ้น


