หุ้นไทยปิดร่วง 10.40 จุด รับแรงขาย DELTA-กลุ่มแบงก์-กลุ่มโรงพยาบาล

ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (7 พ.ย.2568) ปิดตลาดที่ 1,302.91 จุด ปรับลดลง 10.40 จุด หรือลดลง 0.79% มูลค่าการซื้อขาย 29,054.05 ล้านบาท ระหว่างวันขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,314.63 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,302.46 จุด แบ่งตามประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 341.56 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิ 52.32 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,717.02 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 2,323.14 ล้านบาท  

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอส เอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลงตามตลาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ จากความกังวลในเรื่องของการปลดพนักงานของบริษัทใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนภาพของความกังวลโอกาสของภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่อาจจะชะลอตัว ทำให้เป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้น

นอกจากนี้ มีแรงขายหุ้น DELTA กลุ่มแบงก์ และกลุ่มโรงพยาบาล กดดันดัชนีในวันนี้ ประกอบกับปัจจัยในประเทศยังไม่มีปีจจัยใหม่ 

สำหรับแนวโน้มวันจันทร์ (10 พ.ย.2568) ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,290-1,320 จุด   

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,970.25 ล้านบาท ปิดที่ 180.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,649.07 ล้านบาท ปิดที่ 18.50 บาท ลดลง 0.10 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,484.50 ล้านบาท ปิดที่ 11.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,349.80 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,159.71 ล้านบาท ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท