ก.ล.ต. ออกเกณฑ์ Margin Loan ห้าม บล.-TFEX ปล่อยกู้ที่ไม่จำกัดวัตถุประสงค์ใช้เงิน
ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์ Margin Loan ของ บล.และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาล่วงหน้าไม่ให้บริการที่เข้าข่ายเป็นการให้กู้เงินโดยมีหลักทรัพย์เป็นประกันที่ไม่จำกัดวัตถุประสงค์การใช้เงิน
KEY
POINTS
- ก.ล.ต. ออกเกณฑ์ใหม่ ห้ามบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ให้บริการกู้ยืมเงินโดยมีหลักทรัพย์เป็นประกันแบบไม่จำกัดวัตถุประสงค์ (Loan Against Securities)
- ปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Loan) เช่น เพิ่มอัตรามาร์จิ้นเริ่มต้นสำหรับหุ้น IPO และกำหนดเพดานการปล่อยกู้ให้สอดคล้องกับฐานะของ บล.
- กำหนดให้ บล. ต้องมีมาตรการบริหารความเสี่ยงกรณีที่ลูกค้านำหุ้นมาวางเป็นหลักประกันมีการกระจุกตัว
- หลักเกณฑ์ส่วนใหญ่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Loan) หรือมาร์จิ้นโลน และกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ไม่ให้บริการที่เข้าข่ายเป็นการให้กู้เงินโดยมีหลักทรัพย์เป็นประกันที่ไม่จำกัดวัตถุประสงค์การใช้เงิน (Loan Against Securities) เพื่อให้ บล. และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาฯ มีการให้บริการและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม และสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนโดยรวม โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
(1) ปรับปรุงอัตรามาร์จิ้นเริ่มต้น (Initial Margin) ของหุ้นจดทะเบียนที่ออกและเสนอขายหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก (หุ้น IPO) เพื่อลดความเสี่ยงที่หลักประกันจะไม่เพียงพอกับการชำระหนี้
(2) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การปล่อยกู้ให้สอดคล้องกับฐานะของ บล. โดยกำหนดยอดหนี้คงค้างจากการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์แก่ลูกค้าทุกรายรวมกันและแก่ลูกค้ารายใดรายหนึ่งให้รัดกุมขึ้น
(3) กำหนดให้ บล. มีมาตรการบริหารความเสี่ยงกรณีพบการกระจุกตัวของหุ้นที่ลูกค้านำมาวางเป็นหลักประกัน เช่น กำหนดระดับการกระจุกตัวของหลักประกันและการติดตามคุณภาพและการกระจุกตัวของลูกหนี้ เพื่อการติดตามและรายงานความเสี่ยง รวมถึงแก้ปัญหาได้ทันท่วงที
(4) กำหนดประเภทหน่วยลงทุน (daily redemption fund) ของกองทุนรวมที่สามารถวางเป็นหลักประกัน และเป็นหลักทรัพย์ที่ให้กู้ยืมเพื่อซื้อในบัญชีมาร์จิ้นได้ (marginable securities) ได้แก่ กองทุนรวมดัชนี กองทุนรวมหน่วยลงทุน และกองทุนรวมฟีดเดอร์ ซึ่งมีลักษณะเป็นไปตามที่กำหนด
ทั้งนี้ สำหรับหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่น กองทุนรวมอีทีเอฟ ถือเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ซึ่งสามารถใช้วางเป็นหลักประกัน และ marginable securities ได้ตามหลักเกณฑ์ปัจจุบัน
(5) กำหนดให้ บล. และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาฯ ต้องไม่ให้บริการที่อาจเข้าข่ายเป็นการให้กู้ยืมเงินโดยมีหลักทรัพย์เป็นหลักประกันที่ไม่จำกัดวัตถุประสงค์การใช้เงิน (Loan Against Securities) โดยให้พิจารณาจากข้อเท็จจริงหรือสาระที่แท้จริง (substance) ของธุรกรรมนั้นเป็นสำคัญ ไม่ว่าธุรกรรมดังกล่าวจะมีลักษณะหรือรูปแบบใดก็ตาม
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2568 ยกเว้นหลักเกณฑ์ตาม (2) จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2569 และสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่มียอดหนี้คงค้างเกินกว่าเกณฑ์กำหนดก่อนประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ให้มีระยะเวลาเพื่อแก้ไขให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา


